พระเครื่อง

'ผาลไถนา'วัตถุอาถรรพณ์ความเชื่อสมัยพุทธกาลถึงปัจจุบัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ผาลไถนา'วัตถุอาถรรพณ์ความเชื่อที่มาแต่..สมัยพุทธกาลถึงปัจจุบันกาล : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

               เครื่องรางของขลัง คือ วัตถุอาถรรพณ์ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ มีพลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไป หรืออาจบันดาลสิ่งที่ต้องประสงค์สำเร็จได้ นักไสยศาสตร์เชื่อว่าเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ในตัว ไม่ต้องปลุกเสกด้วยคาถาอาคมอะไร ก็นำมาใช้ได้ แต่ก็มีเหมือนกันที่มักจะนำมาลงคาถาอาคมกำกับอีกครั้งหนึ่งเพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้เป็นทวีคูณ

  
               เครื่องรางที่เกิดขึ้นในสัตว์ เช่น ช้องหมูป่า เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกลวง หนังหน้าผากเสือโคร่ง งากำจัด ส่วนที่อยู่ในพืช หรือเกิดจากพืช นิยมเรียกว่า คด เช่น คดขนุน คดมะพร้าว บางครั้งเรียกเฉพาะเจาะจงลงไป เรียกว่า กะลาตาเดียว กะลามหาอุด (ไม่มีตา) ไม้พญางิ้วดำ เป็นต้น รวมทั้งแร่ธาตุ อัญมณี ที่รู้จักกันดีก็คือเหล็กไหล เหล็กน้ำพี้ ปรอท คดหิน คดดินต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางที่เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น รางข้าวหมู อิฐอยู่ไฟ แห่ ไซ และผาลไถนา

               ทั้งนี้ คติความเชื่อว่าวัตถุอาถรรพณ์เป็นวัตถุที่มีอำนาจอิทธิฤทธิ์ในตัวเอง เป็นวัตถุที่มีอำนาจลึกลับ ซึ่งอำนาจนี้เป็นได้ทั้งเกิดประโยชน์และเป็นโทษต่อผู้ที่ครอบครองเอาไว้ หลายคนต่างเสาะแสวงหา ต่างต้องการครอบครองไว้กับตัว นอกจากนั้นยังสามารถทำเงินให้คนที่เสาะแสวงหาได้อีก วัตถุอาถรรพณ์คนเราเชื่อว่ามีอำนาจลี้ลับและมีอิทธิฤทธิ์ มีทั้งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติและมีทั้งที่คนเราได้มีพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ขึ้นมา

               วัตถุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ผาลไถนา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำนาในสมัยยังใช้วัวควายไถนา มีคันไถทำด้วยไม้เอาหัวไถเป็นเหล็กเหมือนในรูปใส่หัวไม้ด้านติดดิน ให้วัวควายลากกดหัวไถให้จมดินแล้วคอยขยับให้ดินพลิกหงายขึ้นเรียกไถแปร มีคติความเชื่อมาแต่โบราณและปัจจุบันนี้ก็ยังเชื่อกันอยู่ คือ ผาลไถนี้ผีกลัวมาก แค่เอาน้ำล้างหัวไถไปพรมคนผีเข้าก็ออกแล้ว ยังเชื่อว่าผาลไถทำอะไรก็ผ่านโดยสะดวกตามต้องการ พลิกร้ายกลายเป็นดีด้วย แช่โอ่งน้ำไว้กินอาบใครทำคุณมาผ่านพ้นไม่ต้องตัว  และที่เชื่อกันมากที่สุดคือ จะกลับร้ายกลายเป็นดี ดั่งเหมือนกับผาลไถ ที่กลับหน้าดินในการทำนา

               คนสมัยก่อนเมื่อทำนา ผาลไถหมดอายุการใช้งานก็จะเอามาเป็นเครื่องราง ยิ่งถ้าเอาไปให้อาจารย์ที่เรืองเวทเสก แล้วจะยิ่งมีคุณมากยิ่งขึ้น โดยมักจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ลูกหลานและญาติมิตรไว้ใช้เพื่อเป็นสิริมงคลและเตือนสติ ในคุณค่าของเครื่องมือสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ช่วยให้คนมีข้าวกิน

               คติการใช้ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยจะใช้ผาลในการประกอบพิธีต่างๆ เมื่อหมดอายุใช้งาน หรือมีผาลเก่าๆ ก็จะเอาขึ้นหิ้งบูชา บางรายถึงกับใส่ไว้ในโอ่งน้ำเพื่อป้องกันอาถรรพณ์ ขณะเดียวกันการทำพิธีถอนอาถรรพณ์พื้นดิน เมื่อเสร็จพิธีสวดถอนก็จะเอาผาลพลิกธรณีทั้ง ๘ ทิศ นอกจากนี้แล้วในการถอนหรือย้ายตำหนิบนร่างกาย (ไฝ-ปาน) จะใช้ผาลในการประกอบพิธีถึงจะได้ผลดีที่สุด


ผาลล้างอาถรรพณ์ในสมัยพุทธกาล

               พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ ว่าด้วยเรื่อง "ภิกษุอาพาธด้วยโรคต่างๆ" โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธถูกยาแฝด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายจากดินรอยไถซึ่งติดผาล"

               ตรงคำว่า "ดินติดผาลไถ" นี้ ก็ได้แก่ ดินที่ติดอยู่ที่ผาลไถที่ชาวนาเขาใช้ไถนานั่นแหละถ้าได้ดินติดผาลไถที่เป็นแบบโบราณ คือ ไถที่เป็นไม้หรือเหล็ก และใช้เทียมกับควายหรือวัว แล้วก็มีคนจับเดินตามแบบนี้ก็ดี และก่อนจะดื่มน้ำดินผาลไถก็อธิษฐานด้วยว่า "ขออำนาจพุทธ-ธรรม-สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้มาอยู่ที่น้ำดินผาลไถนี้ จงมีฤทธิ์อำนาจล้างอาคมยาแฝดในกายข้าให้มลายไป" เรื่องดื่มน้ำนี้ก็ดื่มไปเรื่อยๆ ทั้งดื่มทั้งอธิษฐานไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น

               "เครื่องรางที่สร้างจากผาลไถนา" ปัจุบันต้องยกให้พ่อท่านชื่น อินทปัญโญ พระอริยสงฆ์แห่งวัดในปราบ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สร้างเครื่องรางผานไถอันโด่งดัง ท่านให้คติว่า วัตถุจากธรรมชาติและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตปกติประจำวันหลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกสามารถนำไปใช้ได้เลย อย่างกรณีผานไถนา ซึ่งใช้ประโยชน์สำหรับไถพลิกพื้นดิน และเป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัด คนจึงเกิดความเชื่อ ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถพลิกสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ทำอะไรก็ผ่านตลอดเช่นเดียวกันผาลไถ ทั้งนี้ หลวงพ่อชื่นใช้ผาลไถนาส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า ๑๐๐ ปี นำมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไปแล้ว แต่หลวงพ่อจะจารมือลงไปว่าเป็นยันต์อะไร บางครั้งก็ยันต์นะ บางครั้งก็ยันต์อุด


เจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน"
    
               "นายชื่น แก้วศรีมล" เป็นชื่อและสกุลเดิมของพ่อท่านชื่น อินทปัญโญ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๗ บิดาของท่านเป็นที่รู้จักกันในนามอาจารย์ล่อง ผู้รักษาคนไข้ทางด้านอาคม หรือไสยศาสตร์ในสมัยนั้น เมื่ออายุครบ ๗ ขวบ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดศิลา จ.นครศรีธรรมราช เรียนจบชั้น ป.๔ หลังจากเรียนจบ บิดาของท่านได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลวงพ่อคล้ายมีฐานะเป็นตาของนายชื่น

               ครั้งหนึ่งพ่อท่านคล้ายได้สรงน้ำ ในขณะที่นายชื่นซักสบงให้พ่อท่านคล้ายอยู่ พ่อท่านคล้ายได้ตักน้ำขันที่สามนำมารดศีรษะและนำมือรับน้ำใต้คาง แล้วส่งให้นายชื่นดื่ม เมื่อดื่มน้ำนั้นแล้วพ่อท่านคล้ายได้เริ่มถ่ายทอดวิชาต่างๆ และท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านคล้าย เช่น วิชาทำนายดวงชะตา ขับไล่ภูตผีปีศาจ การขับไล่คุณไสยต่างๆ อีกมากมายจากพ่อท่านคล้าย และเล่าเรียนวิชาอาคมที่ตกทอดจากตระกูลของบิดาท่าน ซึ่งได้ถ่ายทอดให้จนครบอายุครบ ๑๘ ปี บิดาได้เสียชีวิตจึงกลับมาบ้านทำงานเลี้ยงดูผู้เป็นมารดา 

               เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๒ นายชื่น ณ วัดไม้เรียง ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีพระครูญาณวรากร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ชื่น อินทปัญโญ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๒ ได้มาจำพรรษาที่พักสงฆ์ ที่ชาวบ้านจัดไว้และได้เริ่มสร้างเป็นวัดมาจนถึงปัจจุบันชื่อว่า วัดในปราบ โดยความร่วมมือจากชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา โดยชาวบ้านให้ความนับถือหลวงพ่อมาก เนื่องจากหลวงพ่อมีวิชาอาคมรักษาชาวบ้าน ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๔๘ หลวงพ่อได้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกขึ้นมา หลังจากชาวบ้านได้รูปเหรียญหลวงพ่อห้อยคอ ได้มีประสบการณ์มากมายเป็นที่ร่ำลือในด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม และชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งภาคใต้ เช่าหาบูชากันจนหมดไม่เหลือ จนเป็นที่ต้องการของผู้นิยมสะสมพระเครื่อง และชาวต่างประเทศยังเดินทางมาจากมาเลเซียเพื่อกราบขอพร

               อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลวงพ่อชื่นกำลังดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญ ซึงมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า ๘๐% ใช้เงินประมาณ ๑๓ ล้านบาท และเมรุ ใช้เงินประมาณ ๓ ล้านบาท คณะกรรมการจึงจัดสร้างหลวงพ่อชื่นเตารีดหล่อไทย และหลวงพ่อชื่นเนื้อผาลไถโบราณ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่ วัดในปราบ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี โทร.๐๙-๓๗๗๙-๘๘๓๙, ๐๘๙-๒๑๓-๗๙๖๔ และ ๐๘-๘๘๖๗-๔๔๙๖
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ