ข่าว

บัว4เหล่ากับกรณีปล่อย "โรงเรียนเข้าตลาดหุ้น"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้มีอำนาจรัฐในประเทศเราก็เช่นเดียวกัน... มีทั้งผู้มีสติปัญญาและผู้ที่โง่เขลาเต่าตุ่น... ยึดแต่ "อัตตา" และ "ผลประโยชน์"

คอลัมน์ฉาย บุนนาค ฉบับ 3424 หน้า 18 ระหว่างวันที่ 6-8 ธ.ค.2561 โดย..ฉาย บุนนาค

ดั่งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงพิจารณาสัตว์โลกเปรียบเหมือนบัว 4 เหล่า ได้แก่

            1.ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ คือ พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็น “สัมมาทิฏฐิ” ครั้นเมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว... ดั่งบัวเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)

            2. ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ พวกที่มีสติปัญญาปานกลางเป็น “สัมมาทิฏฐิ” เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า... ดั่งบัวซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)

            3. ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็น “สัมมาทิฏฐิ” เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า... ดั่งบัวซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)

            4. ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม คือ พวกที่ ไร้สติปัญญา” และยังเป็น “มิจฉาทิฏฐิ” แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร...  ดั่งบัวซึ่งยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน (ปทปรมะ)

ผู้มีอำนาจรัฐในประเทศเราก็เช่นเดียวกัน... มีทั้งผู้มีสติปัญญาและผู้ที่โง่เขลาเต่าตุ่น... ยึดแต่ “อัตตา” และ “ผลประโยชน์” ส่วนตนเป็นที่ตั้ง... จนทำให้นโยบายการบริหารจัดการองค์กรรัฐสร้างความเสี่ยงและความเสียหายต่อประเทศชาติในวงกว้าง

กลับมาที่ประเด็นฉาวของสังคมที่ ก.ล.ต.นำโดย “เลขาฯ รพี สุจริตกุล” และ ผู้จัดการ ตลท. ดร.ภากร ปีตธวัชชัย” ปล่อยให้โรงเรียนเอกชนเข้าตลาดหุ้น จนเป็นที่โจษจันและต่อต้านกันในวงกว้าง

ขออนุญาตย้อนลำดับเหตุการณ์ “ความอัปยศ” แห่งระบบการอนุมัติประทับตรารับรอง “สถานศึกษาเข้าตลาดหุ้น” ให้ฟังดังนี้นะครับ

ช่วงเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา จากที่ปรากฏเป็นข่าวแสดงให้เห็นถึงความพยายามผลักดัน “สถานศึกษาเข้าตลาดหุ้น” ผมจึงตัดสินใจเขียนบทความ 2ครั้ง แสดงความเห็นค้านตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2561 และ วันที่ 6 กันยายน2561 ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

แต่เรื่องก็ยังไม่มีการทบทวนใดๆ

หลังจากนั้นช่วงต้นเดือนกันยายน 2561ตามที่ปรากฏเป็นข่าว “กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชัน” ซึ่งได้รับข้อมูลจาก “เครือข่ายครูไทย” ที่เป็นห่วงต่อระบบการศึกษามีการเข้ายื่นหนังสือคัดค้านถึง ก.ล.ต.” และ “หน่วยงานรัฐมากมาย” รวมถึง “กระทรวงศึกษาธิการ” เพื่อให้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงผลกระทบอีกครั้งเรื่องก็เงียบไปหายไปในกลีบเมฆอีก

ผ่านไปไม่ถึง 90 วัน แห่งกระแสท้วงติงและคัดค้านจากทุกสารทิศ ว่าด้วยเรื่องการปล่อยให้ “สถานศึกษาเข้าตลาดหุ้น”... ก.ล.ต. ก็ยังนิ่งเฉย ถูกปล่อยผ่านปล่อยปละละเลย และสุดท้ายก็เปิดไฟเขียวให้ “โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์” หรือ SISB” เข้าตลาดหุ้นและกระจายหุ้นสู่สาธารณชน

จากนั้นเมื่อ “เผือกร้อน” ถูกส่งต่อมาที่ “ตลท.” ผู้ทำหน้าที่เสมือนด่านสุดท้ายในการพิจารณาอนุมัติให้ “โรงเรียนเข้าตลาดหุ้น” ความหวังของประชาชนผู้เป็นห่วงและเล็งเห็นผลกระทบต่อประเทศชาติจึงบังเกิด... ฉุกคิดว่า “ดร.ภากร ปีตธวัชชัย” ผู้มีปริญญาหลายใบจะสั่งทบทวนหรือศึกษาเพิ่มเติมอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจ

แต่สิ่งที่เกิดกลับตรงกันข้าม คือ “การกระจายหุ้น” และ “การปล่อยหุ้นโรงเรียนให้เข้าซื้อขายวันแรก” รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา

น่าเสียดายที่รมว.ศึกษาธิการ“หมอธี” และเลขาธิการพรรค ปชป. “คุณจุติ ไกรฤกษ์” ตื่นสายไปหน่อย... เลยออกมาคัดค้านและตั้งคำถามถึงจริยธรรมช้าเกินไป

น่าเสียดายที่ “พวกนักการเมืองรุ่นใหม่” มัวแต่สร้างภาพหาเสียงแทนที่จะออกโรงทำหน้าที่ปกป้องสังคม

น่าเสียดายที่ปริญญาไม่ใช้ตัววัดระดับปัญญาและจริยธรรมในใจคน “โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ SISB” จึงเข้าซื้อขายใน ตลท. และหลุดจองทำร้ายนักลงทุนและผู้ปกครองที่ถูกชักชวนมาซื้อหุ้น IPO เป็นที่เรียบร้อย

วันนี้คงเหลือเพียงความหวังสุดท้ายกับคดีที่ “คุณจุติ ไกรฤกษ์” ไปฟ้องไว้ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ ก.ล.ต.ระงับการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ

   หวังว่า “คุณจุติ ไกรฤกษ์” ไม่ทำเรื่องนี้เพียงเพื่อสร้างภาพก่อนหาเสียงนะครับ... “คุณจุติ ไกรฤกษ์” ควรเดินหน้าต่อสู้อย่างจริงจังเพื่อเป็นตัวอย่างแก่นักการเมืองรุ่นเด็กในพรรค... คนจะได้เลิกครหาว่า ปชป. ดีแต่พูด!!

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ