ข่าว

วิบากกรรม "พานทองแท้" ลุ้นคุก10ปี?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ผมจะไม่ยอมให้น้อง สาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว" เป็นคำพูดที่เชื่อว่าเป็นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เปรยออกมา

ฐานโซไซตี ฉบับ 3409 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 14-17 ต.ค.2561 โดย... ว.เชิงดอย

 

 

วิบากกรรม “พานทองแท้” ลุ้นคุก10ปี?

 

          “ผมจะไม่ยอมให้น้อง สาวผมติดคุกแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่วินาทีเดียว” เป็นคำพูดที่เชื่อว่าเป็นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เปรยออกมา หลัง น้องสาว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องระเห็จหนีออกนอกประเทศ ก่อนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 และต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 27 กันยายน 2560 ซึ่งศาลตัดสินสั่งจำคุก ยิ่งลักษณ์ เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา

          เมื่ออัยการนำตัวส่งศาล สั่งฟ้อง “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” ในคดีฟอกเงิน 10 ล้านบาท จากการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย เลยทำให้คิดเลยเถิดไปว่า ต่อไปอาจจะมีประโยค “ผมจะไม่ยอมให้ลูก(ชาย) ติดคุก แม้แต่วินาทีเดียว” ขึ้นมาก็ได้ ซึ่งการจะเป็นจริงเช่นนั้นได้ ก็หมายความว่า “โอ๊ค-พานทองแท้” จะต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ไม่อยู่ฟังคำพิพากษาของศาล และศาลมีคำพิพากษาจำคุกในคดีนี้

         

          สำหรับคดี “ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน” จากการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย กับเครือกฤษดามหานคร ที่ “โอ๊ค-พานทองแท้” ตกเป็นผู้ต้องหานี้ อยู่ในมือของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว พานทองแท้ โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และศาลนัดสอบคำให้การ พานทองแท้ ว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยความผิดฐานฟอกเงินมีโทษจำคุกระหว่าง 1-10 ปี ...ว่ากันว่า กรณีของ “โอ๊ค-พานทองแท้” หลักฐานเช็คการโอนเงินเข้าบัญชี ถือเป็น “หมัดเด็ด” ของคดีนี้

         

          เกี่ยวกับคดีปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ก่อนหน้านี้ศาลเคยตัดสินจำคุกอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และกฤษดามหานครมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ, วิโรจน์ นวลแข, วิชัย-รัชฎา กฤษดาธานนท์ ดังนั้น “คดีฟอกเงิน” จึงเป็น “ผี” ที่จะตามหลอกหลอน “โอ๊ค-พานทองแท้”นับแต่นี้ไปจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมา... ชะตากรรมของ “โอ๊ค-พานทองแท้” จะซํ้ารอย “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อ และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็นอาหรือไม่ “ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง” เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ให้คำตอบ ไม่ว่าผู้ตกเป็นจำเลย จะพยายามสร้างกระแสว่าเป็นเรื่อง “ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง” ก็ตาม

 

 

          ว่าด้วยเรื่องของ “ลูก” แล้ว ก็ขอไปต่อที่เรื่องของ “พ่อ” ก็แล้วกัน จะเรื่องอะไรเสียอีก ก็เรื่องของ “พรรคเพื่อไทย” นี่แหละ อยู่ดีไม่ว่าดี ไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดประเด็นที่จะนำไปสู่การ “ยุบพรรค” เสียอีก เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้สั่งให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บินไปพบ นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงแล้ว ว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่ กรณีการให้คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรค ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าพรรคเพื่อไทยยินยอมให้มีการครอบงำ ต้องถูกยุบพรรคทันที

     

          ตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม และ มาตรา 29 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

 

          .รู้ทั้งรู้ว่ากฎหมายมีข้อห้ามเรื่องนี้อยู่ แต่ก็ยัง “ท้าทาย” ไม่สนใจไยดี พอเขาสรุปว่า “เป็นความผิด” ก็จะออกมาตีโพยตีพายว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองบ้างล่ะ 2 มาตรฐานบ้างล่ะ ไม่ได้รับความเป็นธรรมบางล่ะ แล้วทำไมไม่หันมองตัวเองบ้างละว่าเป็นเพราะอะไร ถึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น พับผ่าสิ...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ