ข่าว

สธ. ตรวจสุขภาพพนักงานโรงงานสมุทรสาคร 11รายไม่พบผลกระทบจาก 'แคดเมียม'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. เผยมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบ 'แคดเมียม' ในโรงงานสมุทรสาคร ตรวจสุขภาพพนักงาน 11 ราย เบื้องต้นยังปกติ เตรียมประสานบริษัทนัดคนงานตรวจเพิ่ม พร้อมสุ่มตรวจเฝ้าระวังสารพิษในประชาชน เตรียมพร้อมบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ สารแก้พิษ พร้อมสุ่มตรวจเพิ่มในระยะ 3-6 เดือนต่อไป

นพ.กิตติ กรรภิรมย์ รักษาราชการแทนผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตรวจพบกาก 'แคดเมียม' และกากสังกะสีจำนวนมากภายในโรงงาน 3 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ในช่วงระยะเฉียบพลัน (48 – 72 ชั่วโมง) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครและโรงพยาบาลสมุทรสาคร จะเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพในกลุ่มผู้สัมผัสและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสุขภาพพนักงานบริษัททุกคน เบื้องต้นตรวจแล้ว 11 ราย ผลเป็นปกติ ส่วนการตรวจหาสาร 'แคดเมียม' ในปัสสาวะจะทราบผลภายใน 3 – 5 วัน และบริษัทจะนัดหมายพนักงานส่วนที่เหลือให้รีบมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสมุทรสาครต่อไป ส่วนการเฝ้าระวังในประชาชน จะมีการตรวจสุขภาพและสุ่มตรวจสารแคดเมียมในปัสสาวะ เพื่อประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพ และให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการได้รับสารพิษ และอาการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นพ.กิตติ กรรภิรมย์ รักษาราชการแทนผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5

 

นพ.กิตติ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมพร้อมด้านการรักษาพยาบาล กรณีที่ประชาชนได้รับผลกระทบจาก 'สารแคดเมียม' นั้น โรงพยาบาลสมุทรสาครได้เตรียมสถานที่และผู้เชี่ยวชาญ ยา เวชภัณฑ์ และสารแก้พิษไว้แล้ว พร้อมทั้งสื่อสารความรู้กับพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายกากสารเคมีในการดูแลตนเองขณะที่มีการขนส่ง กลุ่ม อสม.และประชาชน ให้ความรู้การดูแลตนเอง และอาการที่เกี่ยวเนื่องกับการได้รับสารแคดเมียม รวมถึงเผยแพร่ความรู้ในสื่อโซเชียลต่างๆ ของหน่วยงาน และยังจัดทีมเยียวยาจิตใจลงพื้นที่เพื่อประเมินสุขภาพจิตของประชาชน ส่วนในระยะถัดไป ช่วง 3 – 6 เดือน จะสุ่มตรวจเพิ่มเติมในประชาชนและเฝ้าระวังอาการโดยเฉพาะกลุ่มพนักงานในโรงงาน และตรวจการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานด้วย

สธ. ตรวจสุขภาพพนักงานโรงงานสมุทรสาคร 11รายไม่พบผลกระทบจาก

 

ด้านนายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบพร้อมเฝ้าระวัง และประเมินสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสาร 'แคดเมียม' ว่า ได้กำกับติดตามให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี และกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงพื้นที่เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณข้างเคียง ตรวจคัดกรองสุขภาพ และสุ่มตรวจหาสาร 'แคดเมียม' ในปัสสาวะของประชาชนเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ และแนวทางปฏิบัติตัว พร้อมทั้งทำการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อไป 

ตรวจสุขภาพพนักงานโรงงานสมุทรสาคร 11รายไม่พบผลกระทบจาก

 ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประกาศห้าม มิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่โรงงาน เป็นระยะเวลา 90 วัน ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพพนักงานที่ทำงาน จำนวน 11 ราย แยกเป็น คนไทย 8 ราย ต่างด้าว 3 ราย ซึ่งได้มีการดำเนินการดังนี้ 1.ซักประวัติตามแบบฟอร์มการสัมผัสสารโลหะหนักแคดเมียม 2.ตรวจวัดสัญญาณชีพ เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ 3.เก็บปัสสาวะส่งตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะ ผลจะได้ภายในระยะ เวลา 1 สัปดาห์

  ตรวจสุขภาพพนักงานโรงงานสมุทรสาคร 11รายไม่พบผลกระทบจาก

นายแพทย์อภิชาต กล่าวต่อว่า สาร 'แคดเมียม' มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการแบบเฉียบพลัน ได้แก่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ระคายเคืองหลอดลม จมูก และคอ นอกจากนี้ หลังจากการรับสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดพังผืดที่ปอด พิษต่อไต โรคกระดูก หรือที่รู้จักกันในโรคอิไต อิไต และก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เบื้องต้นกาก 'แคดเมียม' ได้มีการจัดเก็บในสถานที่มิดชิด ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้ตรวจสอบแล้วพบว่ากากแคดเมียมและกากสังกะสีมีการผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30% เพื่อทำลายฤทธิ์และอยู่ในสถานะแข็งตัว หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและหากไม่มีการชำระล้างจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ควรปฏิบัติตัวดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตพื้นที่โรงงาน

2.หากมีการสูดดมเข้าไป ให้รีบไปอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศบริสุทธิ์

3.หากเข้าตา รีบล้างด้วยน้ำสะอาดและพบจักษุแพทย์

4.หากเผลอกลืนกิน รีบดื่มน้ำตามทันที อย่างน้อย 2 แก้ว

5. หากมีอาการผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์ทันที

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ เป็นระยะ อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม ที่มักฉวยโอกาสในการให้ข่าวที่ไม่เป็นความจริง ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ