บิ๊กบัง - วิชิต รียูเนียน 'ศปก.ทบ.315' ปฏิบัติการลับ ไทย-กัมพูชา ยุคเขมรแดง

พล.อ.วัฒนา สรรพานิช เป็นประธานทำบุญเลี้ยงพระเพล ให้กับสมาชิกศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก 315 หรือ 'ศปก.ทบ.315' ที่เคยปฏิบัติงานในกัมพูชาในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดงานที่สโมสรทหารบก พร้อมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ พร้อมด้วยพลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และอดีตนายทหารที่ร่วมปฏิบัติการ มาร่วมงาน ซึ่งเดิมตามกำหนดการ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีต ผบ.ทบ. จะมาเป็นประธานงาน แต่ป่วยจึงไม่ได้มาร่วมงาน 

โดยผลการปฎิบัติงานของ 'ศปก.ทบ.315' ในอดีตมีภารกิจในการรวบรวมข่าวสาร อำนวยการการข่าว ปฏิบัติการพิเศษ ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา สามารถสกัดกั้น การขยายตัวของข้าศึก กลุ่มเขมรแดง ที่พยายามลุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย และสำหรับการรวมตัวของสมาชิก 'ศปก.ทบ.315' จัดกิจกรรมรวมตัวของสมาชิกจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเว้นในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา รูปแบบกิจกรรมในการทำบุญเลี้ยงพระและรับประทานอาหารร่วมกัน

ทั้งนี้เหตุการณ์ในอดีตนั้นมีเรื่องวาระลับในการปฏิบัติการณ์หลายเรื่องและมีหลายเรื่องที่สามารถเรียบเรียงบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ จึงมีแนวคิดที่จะทำสารคดี ที่จะถ่ายทอดให้ทหารรุ่นหลังได้รับทราบเรื่องราว 

พล.อ.วิชิต กล่าวว่า ผลการปฎิบัติงานของ 'ศปก.ทบ.315' ในอดีตมีภารกิจในการรวบรวมข่าวสาร อำนวยการการข่าว ปฏิบัติการพิเศษ ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา สามารถสกัดกั้น การขยายตัวของข้าศึก กลุ่มเขมรแดง ที่พยายามลุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในยุคนั้นก็เพื่อป้องกันลัทธิคอมมิวนิสต์ตามทฤษฎีโดมิโน่ ที่กลุ่มเขมรแดงเข้ากวางล้างในกัมพูชา และไทยได้เข้าไปช่วยทำให้กัมพูชาสามารถรวมชาติได้ หลังภายในกัมพูชาแย่งเป็นหลายฝ่าย

 โดยมี พล.อ.ชวลิต คิดค้นกลยุทธ์และทำจนสำเร็จ โดยปฏิบัติการทั้งในและนอกประเทศ มีเรื่องลึกลับมากมายที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ทั้งหมดนี้ทำให้สัมพันธ์ไทยและกัมพูชาดีมาโดยตลอด รวมทั้งสมเด็จฮุนเซน ก็ขอบคุณ พล.อ.ชวลิต ที่ทำให้มีรัฐบาลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะส่งต่อให้ พล.อ.ฮุน มาเนต บุตรชาย ขึ้นเป็น นายกฯ แต่เชื่อว่าสมเด็จฮุน เซน ยังคงสืบทอดอำนาจอยู่

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับรัฐบาลเศรษฐา หลังนายกฯเดินทางไปพบ พล.อ.ฮุน มาเนต นั้น พล.อ.พิชิต มองว่า สัมพันธ์ก็ยังคงเป็นไปด้วยดี ในการสานงานต่างๆ ฝ่ายกัมพูชารับเรื่องที่ไทยเสนอไป ตนเชื่อว่าการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชน 2 ประเทศ ที่คิดเห็นต่างกัน ก็จะลดลงไป โดยเฉพาะในโซเชียลฯ แต่โดยลึกแล้วไทยและกัมพูชาเราสนิทและเป็นพี่น้องกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้เข้าพบปะพูดคุยด้วยว่า ตนได้เข้าพูดคุยส่วนตัวกับนายสุทิน ตนมองว่านายสุทินเข้ามาเป็น รมว.กลาโหม ในจังหวะที่ดีพอสมควรในช่วงนี้ เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านอะไรต่างๆ ซึ่งตนคิดว่าแต่เดิมนั้นนายสุทินไม่ได้คิดจะมาเป็น รมว.กลาโหม ในเมื่อมาเป็นแล้ว ตนในฐานะอดีตทหารเก่า มองว่านายสุทินรู้เรื่องทหารไม่มาก แต่มีความเข้าใจจิตใจของทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเอาคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์มาเป็น รมว.กลาโหม จะมีปัญหากับน้องๆในกองทัพแน่นอน แต่ถ้าเป็นนายสุทิน เรียกว่ามามือเปล่าและเข้าใจกองทัพ เวลาที่ตอบคำถามในสภาที่เป็นคำถามแรงๆ ตนไม่คิดว่านายสุทินจะตอบได้อย่างนุ่มนวล และทำให้สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะรุนแรงนั้นราบรื่น แต่ถ้าให้นายกฯคนที่แล้วตอบ คงจะมีเรื่องต่อสู้กันอีกยาวในสภาฯ ถือเป็นความโชคดีของทหาร และนายสุทินก็วางตัวไม่ล้ำเส้นทหาร แต่ก็ไม่ยอมเกินไป อยู่ในเส้นที่พอดี รวมถึงการที่นายเศรษฐาแต่งตั้ง พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นที่ปรึกษานายกฯ ซึ่ง พล.อ.นิพัทธ์มีความเก่งและแม่นยำในเรื่องความมั่นคง นายเศรษฐา เลือกถูกแล้ว