ข่าว

นายกฯประชุมนำคนไทยออกจากอิสราเอล - ดิ้นพาไปพักพิงประเทศที่สามรอส่งกลับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกรัฐมนตรีประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินใน "อิสราเอล" ที่กระทรวงการต่างประเทศ ประเมินการอพยพคนไทย ขึ้นเครื่องบินวันละ 200 คน เข้าข่ายไม่ทันการณ์ เบื้องต้นหาทางออก นำพาแรงงานไทยไปประเทศที่ 3 พักรอ เดินทางกลับประเทศไทย เตรียมเจรจาเอกอัครราชทูตอิสราเอล หาทางช่วยไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  ในการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล หรือ  Rapid Response Center : RRC ที่กระทรวงการต่างประเทศ  มีหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม  สาระสำคัญ  คือความพยายามในการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล  อย่างไรก็ตามการอพยพขณะนี้ ยังมีความล่าช้า และมีปัญหาในการทำการบิน เพราะถือเป็นเที่ยวบินพิเศษ ต้องผ่านน่านฟ้าถึง 10 ประเทศ ต้องใช้เวลากว่า 1 เดือน ในการขอผ่านน่านฟ้าประเทศต่าง ๆ

 

 

 

 

กระบวนการในส่วนนี้ กระทรวงการต่างประเทศ  ได้เร่งดำเนินให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง จึงได้สั่งการให้ทุกเที่ยวบินของไทย เตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ (12 ต.ค.) ซึ่งรวมไปถึงสายการบินพาณิชย์ ทั้งนกแอร์ จำนวน 2 ลำ, แอร์เอเชีย 2 ลำด้วย ส่วนการบินไทยในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) จะได้คำตอบว่า จะสามารถส่งเครื่องบินมาช่วยภารกิจได้หรือไม่ เพราะสายการบินไทย ไม่มีเที่ยวบินไปกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหาแนวทาง อาจให้เครื่องบินไปรอประเทศใกล้เคียงที่มีเส้นทางการบินก่อน และรออพยพคนไทยกลับมาหลังจากมีการเคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่อีกครั้ง 

 

 

 

 

.

เร่งรัดหาทางอพยคนไทยให้เร็วขึ้น 

.

สำหรับคนไทยใน อิสราเอลทราบว่า  เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ สามารถนำคนไทยในพื้นที่มายังพื้นที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมการอพยพกลับประเทศได้ ประมาณวันละ 200 คน หรือถือเป็นวันละเที่ยวบิน ซึ่งต้องใช้เวลานานนับเดือนกว่าจะอพยพหมด จึงจะมีการหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้การอพยพรวดเร็วขึ้น เช่น การขนแรงงานไทยไปประเทศที่ 3 เพื่อพักรอก่อนเดินทางกลับประเทศไทย แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องเอกสารหนังสือการเดินทางของแรงงาน ที่บางคนหนังสือเดินทางหาย หรืออยู่กับนายจ้าง ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านแดนได้

 

 

 

 

ดังนั้น จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่จากไทย และสถานทูตใกล้เคียงไปช่วยงานเอกสารต่าง ๆ เพิ่มเติม ยืนยันว่า ปัญหางานเอกสารต่าง ๆ ทั้งแรงงานไม่มีหนังสือเดินทางติดตัว หรืองานเอกสารต่าง ๆ จะต้องเป็นเรื่องรอง   ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของแรงงานเป็นสูงสุด และจะต้องนำคนไทยกลับมาให้ได้    ส่วนการอพยพคนไทยออกมาทางบก   พบปัญหาที่จะต้องผ่านพื้นที่ฉนวนกาซาก่อน ซึ่งอันตราย  ทางเรือก็อาจติดปัญหาที่จะต้องผ่านพื้นที่อันตรายเช่นเดียวกัน   ทำให้การขนส่งทางเครื่องบินเป็นทางออกเดียว 

 

.

นายกฯ สลดไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งแต่คนไทยสังเวยชีวิต

.


"การเจรจาเพื่อขอให้มีการปล่อยตัวประกันที่เป็นคนไทยนั้น  มีการเจรจาอย่างตลอดเวลาทุก ๆ ช่องทางที่สามารถทำได้ โดยไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และยังมีความหวัง เพราะไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง   แต่ก็เป็นเรื่องที่เสียใจที่ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง แต่กลับมียอดผู้สูญเสียสูงสุด และเชื่อว่า หลาย ๆ ประเทศจะให้ความเห็นใจประเทศไทย และอนุญาตให้ผ่านน่านฟ้า เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล"

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า    การเคลื่อนย้ายร่างคนไทยผู้เสียชีวิตในอิสราเอล โดยยอมรับเข้ากังวลของใจญาติ เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้พยายามกดดันทางการอิสราเอลตลอด แต่ยังจะต้องรอทางการอิสราเอลชันสูตร เพื่อให้สามารถออกหลักฐานรับค่าชดเชยกรณีการเสียชีวิตได้  กระทรวงการต่างประเทศ จะพยายามติดตามให้ดีที่สุด 

 

.

จี้อิสราเอล ช่วยเจรจาปล่อยตัวประกัน- ลำเลียงผู้เสียชีวิต

.


" รัฐบาลจะหารือกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  จะขอความเห็นใจในการให้ความช่วยเหลือ เพราะประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุด   จะขอให้ทางการอิสราเอล ช่วยเจรจาปล่อยตัวประกัน การลำเลียงผู้เสียชีวิต และการเคลื่อนย้ายแรงงานออกจากพื้นที่อันตรายสู่สนามบินเพื่อเตรียมอพยพกลับ รวมถึงการขอเปิดน่านฟ้า เพื่อให้เครื่องบินสามารถไปรับคนไทยกลับมาได้ นอกจากนั้นจะขอให้ดูแลแรงงานไทยในพื้นที่ และยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงาน ทั้งที่ยังอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย " นายเศรษฐา  กล่าว

 

 

นายกฯประชุมนำคนไทยออกจากอิสราเอล - ดิ้นพาไปพักพิงประเทศที่สามรอส่งกลับ นายกฯประชุมนำคนไทยออกจากอิสราเอล - ดิ้นพาไปพักพิงประเทศที่สามรอส่งกลับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ณ กระทรวงการต่างประเทศ

.

ขอขอบคุณภาพจาก thaigovt

.
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ