ข่าว

ลูกสาวอันวาร์ผิดหวังรัฐบาลแนวร่วมแห่งความหวัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักการเมืองหญิงคนดัง ลูกสาวอันวาร์ อิบราฮีม ประกาศเป็นส.ส.สมัยสุดท้าย ผิดหวังรัฐบาลอืดอาดปฏิรูป รับส.ส.แปรพักตร์จากฝ่ายค้าน

 
นูรุล อิซซาห์ อันวาร์ บุตรสาวนายอันวาร์ อิบราฮีม  ให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์ สเตรทส์ไทมส์ ของสิงคโปร์ สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เธอจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยสุดท้ายแล้ว และแสดงความผิดหวังกับปากาตัน ฮาราปัน (พีเอช ) หรือพันธมิตรแห่งความหวัง หลังชนะเลือกตั้งขึ้นมาเป็นรัฐบาลด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายเมื่อพฤษภาคมปีที่แล้ว 


เดือนธันวาคมที่ผ่านมา นูรุล อิสซาห์ ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคพีเคอาร์ หนึ่งในสี่พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งรองประธานพรรค และตำแหน่งในรัฐบาล หลังถูกครหาใช้ระบบเครือญาติและพวกพ้อง เนื่องจากมารดาของเธอ ดร.วัน อาซิซาห์ วัน อิสมาอิล เป็นรองนายกรัฐมนตรี ส่วนบิดา นายอันวาร์ เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป 


อันวาร์ บิดาของเธอ กล่าวขณะนั้นว่า ลูกสาวคนโตของเขาเบื่อหน่ายเกมการเมืองหลังฉาก ที่ยังดำเนินต่อไปหลังเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว   


ล่าสุดเมื่อวานนี้  นักการเมืองหญิงคนดังของมาเลเซีย ยังลาออกจากคณะกรรมาธิการตรวจสอบงบประมาณ (พีเอซี) สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ยอมให้นายโรนัลด์ เคียนดี ทำหน้าที่ประธานต่อ ทั้งที่นายเคียนดี ไม่ได้เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านอีกต่อไป หลังทิ้งอัมโนมาเป็นส.ส.อิสระ จากนั้นเข้าเป็นสมาชิกพรรค ภูมิบุตร เบอร์ซาตู ของดร.มหาธีร์เมื่อสัปดาห์ก่อน แม้แกนนำพีเอชหลายคนไม่เห็นด้วย รวมถึงนูรุล อิซซาห์ ที่มองว่า ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณ ควรเน้นที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสของฝ่ายบริหาร 

นูรุล อิสซาห์ บอกสื่อสิงคโปร์ว่า ผิดหวังกับสภาพการเมืองในหลายเรื่อง โดยไม่ได้ขยายความ กระนั้น เรื่องหนึ่งที่เธอแย้มก็คือการแปรพักตร์ของ ส.ส.ของพรรคบีเอ็น หรือแนวร่วมแห่งชาติ แกนนำอดีตรัฐบาลอัมโน 

เรื่องการรับอดีตส.ส.อัมโนเข้ามาร่วมในพรรครัฐบาลนั้น  เธอระบุว่าเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่น่าเศร้า ไม่เพียงแต่สำหรับพีเคอาร์ แต่หมายถึงชาวมาเลเซียทุกคน  “มันเป็นสถานการณ์น่าเศร้า เราต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง  ฉันเชื่อในระบบสองพรรค ว่ามีความสำคัญต่ออนาคตมาเลเซีย”


นอกจากนี้ อดีตรองประธานพรรคพีเคอาร์ ยังวิจารณ์ว่า รัฐบาลหมกมุ่นกับเรื่องอื้อฉาว วันเอ็มดีบี  มากกว่าโฟกัสที่เรื่องปากท้อง และดำเนินนโยบายและปฏิรูปต่างๆล่าช้า  นอกจากนี้ด้วยสถานการณ์แบ่งขั้วเลือกข้างหนักหลังเลือกตั้ง 9 พ.ค.ปีที่แล้ว ยังทำให้รัฐบาลผสมไม่ได้สะสางความไม่สมดุลทางเชื้อชาติตามที่เคยให้สัญญา ทั้งที่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 14 รัฐบาลไม่ได้ชนะกวาดเสียงส่วนใหญ่จากผู้ออกเสียงชาวมาเลย์  และรัฐบาลควรต้องใส่ใจผู้มีสิทธิออกเสียงในเขตชนบทมากกว่านี้ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ