ข่าว

ส่ออาชญากรรมสงครามมะกันโจมตีสุดโต่งโซมาเลเซียทำชาวบ้านตาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ออกรายงานกล่าวหากองทัพสหรัฐ คร่าชีวิตพลเรือนในโซมาเลีย ขณะเพิ่มเที่ยวบินโจมตีทางอากาศ 


กองทัพสหรัฐอ้างว่า ผลจากการโจมตีทางอากาศทั้งด้วยโดรน และเครื่องบินรบแบบนักบินควบคุมในโซมาเเลีย 110 ครั้งในรอบ 2 ปี  เป็นให้มีผู้เสียชีวิต 800 คน และยืนยันทุกรายเป็นผู้ก่อการร้าย  

 
แต่นักวิจัยแอมเนสตี ที่สอบสวนการโจมตีทางอากาศ 5 ครั้งพบว่ามีพลเรือนเสียชีวิต ถึง 14 ราย ซึ่งน่าวิตกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทั้งหมด น่าจะสูงกว่านี้ 


“การโจมตีหลายครั้งส่อละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และบางกรณีอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม” แอมเนสตีระบุในรายงานชื่อ “สงครามสหรัฐที่ถูกซุกซ่อนในโซมาเลีย” 


ผลศึกษา อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ สมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง 105 ปาก ประกอบกับภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายรูปหลุมจากการระเบิด และสะเก็ดกระสุนรวบรวมจากจุดโจมตี 
การโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ที่รวมถึงการยิงมิสไซล์จากเครื่องบินมีนักบินบังคับกับอากาศยานบังคับระยะไกล หรือ โดรน มีเป้าหมายที่กลุ่มสุดโต่ง อัลชาบับ 

แอมเนสตี ระบุว่านับจากเมษายน 2560 สหรัฐเพิ่มจำนวนการโจมตีเป้าหมายในโซมาเลีย เฉลี่ย 3 เท่าต่อปี และจำนวนเที่ยวถล่มในประเทศแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้ มากกว่าการโจมตีทางอากาศในเยเมนกับลิเบียรวมกันในช่วงเวลาเดียวกัน    
แต่กองบัญชาการสหรัฐแอฟริกา (แอฟริคอม) ยืนยันว่าเป้าหมายที่ถูกโจมตี มีความชอบธรรม ไม่พบพลเรือนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ และว่าการอ้างว่าพลเรือนบาดเจ็บล้มตายอันเป็นเท็จ คือผลประโยชน์ของอัลชาบับ 


นับจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้พื้นที่ทางใต้โซมาเลเซียเป็นเขตศัตรู ในมีนาคม 2560 สหรัฐโจมตีทางอากาศเพิ่มเป็น 34 ครั้งในปีเดียวกัน  มากกว่า 5 ปีก่อนหน้ารวมกัน  ส่วนปีที่แล้ว จำนวนเที่ยวโจมตีเพิ่มเป็น 47 และปีนี้ เฉพาะสองเดือนแรกโจมตีแล้ว 24 ระลอก 


อีฟลิน แอโร จากสภาผู้ลี้ภัยนอรเวย์ที่ทำงานช่วยเหลือคนกลุ่มเสี่ยงในโซมาเลเซีย กล่าวว่า ยิ่งโจมตีทางอากาศและมีการสู้รบมากเท่าไหร่  ก็หมายถึงคนหนีออกจากบ้าน  ชีวิตพลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยงมากเท่านั้น  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ