ยักษ์ใหญ่เคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์เยอรมนีมีแผนลดพนักงาน 1.2 หมื่นคนทั่วโลกตามแผนปรับโครงสร้างหลังซื้อมอนซานโต
ไบเออร์ บริษัทเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของโลก มีสำนักงานในเมืองเลเวอร์คูเซน ประเทศเยอรมนี ประกาศว่าจะลดพนักงาน 1.2 หมื่นคนจากที่มีทั้งหมด 1.18 แสนคน ภายในสิ้ินปี 2564 และขายสินทรัพย์บางส่วน
โดยในจำนวนนี้ เป็นพนักงานกว่า 4,000 คนในแผนกวิทยาศาสตร์พืชผลของบริษัท อันเป็นผลจากการซื้อ มอนซานโต กลุ่มธุรกิจสหรัฐคู่แข่งเมื่อต้นปี
ไบเออร์ทุ่มเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ซื้อมอนซานโต นับเป็นการเข้าซื้อกิจการต่างชาติครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเยอรมนี และเพื่อให้ข้อตกลงซื้อขายผ่านการอนุมัติจากผู้คุมกฎ บริษัทตกลงจะขายสินทรัพย์บางส่วนรวมถึงธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช และยาปราบวัชพืชบางยี่ห้อ
บริษัทเยอรมนีระบุว่า จะวางมือจากธุรกิจสุขภาพสัตว์ และขายหุ้นใน เคอร์เรนตา บริษัทให้บริการบริษัทเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ยังกำลังพิจารณาจะขายสินทรัพย์เพิ่มอีก อาทิ ครีมกันแดด คอปเปอร์โทน และผลิตภัณฑ์ดูแลสุภาพเท้า Dr. Scholl's.
เวร์เนอร์ บาวมานน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ไบเออร์ กล่าวว่า ด้วยมาตรการที่ดำเนินอยู่ บริษัทจะยกระดับผลประกอบการและความสามารถในการทำกำไรของไบเออร์อย่างยั่งยืน
สั่งมอนซานโตจ่ายผู้ป่วยมะเร็งกว่า 9,600 ล้านคดีพิษ"ราวด์อัพ"
ราคาหุ้นบายเออร์ดิ่งลงกว่า 35% แล้วในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากความวิตกคดีฟ้องร้องสืบเนื่องจากพิษภัยของ ราวด์อัพ ยาปราบวัชพืชของมอนซานโต
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะลูกขุนซานฟรานซิสโก ตัดสินให้อดีตคนทำสวนโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเพราะผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ได้รับค่าชดเชย 289 ล้านดอลลาร์ ต่อมา ศาลลดค่าชดเชยลง กระนั้น ยังมีคดีฟ้องร้องในทำนองเดียวกันอีกราว 9,000 คดีรอขึ้นศาลอยู่ ขณะที่มอนซานโตยืนยัน ราวนด์อัพปลอดภัยหากใช้ตามคำแนะนำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง