การกู้ศพหนุ่มชาวอเมริกันที่ถูกชนเผ่าเซนทิเนล ยิงธนูเสียชีวิตบนเกาะหวงห้ามสำหรับคนนอก เพราะเหตุใดจึงเป็นไปได้ยาก และไม่ควรทำ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ทางการอินเดียยังไม่สามารถระบุพิกัดศพจอห์น อัลเลน เชา มิชชันนารีและนักเดินทางผู้รักการผจญภัย บนเกาะเซนทิเนลเหนือ นับจากที่เขาตัดสินใจทำภารกิจเสี่ยง มุ่งมั่นเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในดินแดนชนเผ่าที่ยังดำรงชีวิตในวิถีโลกเก่าตัดการติดต่ออารยธรรมภายนอก และเสียชีวิตจากธนูและลูกดอกทันทีที่ขึ้นฝั่งเป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน
ตำรวจขอความช่วยเหลือจากนักมานุษยวิทยาและนักวิชาการ เพื่อพยายามประเมินพิธีกรรมชนเผ่าเซนทิเนลหลังสังหารคนนอก บางคนเชื่อว่า หลังจากทำการฝัง 2-3 วัน พวกเขาจะขุดศพขึ้นมาจับให้อยู่ในท่ายืนกับเสาไม้ไผ่ เพื่อเตือนผู้ที่คิดบุกรุก เหมือนกับกรณีเก่าในปี 2549 ชนเผ่าเซนทิเนลนำศพชาวประมง 2 รายเกี่ยวกับเสาไม้ไผ่หันหน้าไปทางทะเล เหมือนกับหุ่นไล่กา
เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ
เมื่อวานนี้ ตำรวจอินเดียพาชาวประมงที่รับค่าจ้างพามิชชันนารีอเมริกันไปเกาะต้องห้าม ไปชี้จุดที่พบเห็นเชาครั้งสุดท้ายขณะร่างถูกฝังครึ่งตัว แต่เมื่อแล่นเรือเข้าใกล้จากชายหาด 400 เมตร และใช้กล้องส่องทางไกลไปบริเวณนั้น พบชาย 4-5 คน ยืนอยู่บนหาด เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจกำลังเฝ้าหลุมศพของเชาอยู่ พวกเขาจ้องมาที่เรือ และตำรวจถอยกลับเพื่อเลี่ยงเผชิญหน้า
ปันกาจ เสกซาเรีย ผู้เชี่ยวชาญสิทธิชนเผ่าและผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเกาะอันดามันและนิโคบาร์ แสดงความเห็น ว่า การเข้าไปใกล้เกาะเซนทิเนลเหนือ ไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะจะก่อความขัดแย้งกับชนเผ่า
เช่นเดียวกับ โซฟี กริก นักวิจัยอาวุโสของ เซอร์ไววัล อินเตอร์เนชันแนล องค์กรเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชนเผ่าทั่วโลก ที่ไม่เชื่อว่า มีวิธีการปลอดภัยที่จะไปนำศพของชาวอเมริกันออกมาได้ โดยไม่ทำให้ชนเผ่าเซนทิเนลและผู้ที่พยายามเข้าไป ตกอยู่ในความเสี่ยง
ชนเผ่าแห่งเกาะอันดามันโดดเดี่ยวและเปราะบาง
ด้าน อานพ คาปูร์ ศาสตราจารย์มานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยเดลี กล่าวว่า ใครก็ตามที่คิดจะเปิดเจรจากับชนเผ่าเซนทิเนล ต้องแสดงเห็นว่าพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน
“ไม่สวมใส่อะไรเลย เมื่อนั้นคุณถึงจะหวังได้ว่าจะมีการปฏิสัมพันธ์บางอย่าง” นักวิชาการแนะนำ
ครั้งหนึ่ง คาปูร์ เคยติดต่อกับชนเผาออนเก ( Onge ) ชนเผ่าอีกกลุ่มในหมู่เกาะอันดามัน ซึ่งเกิดขึ้นได้หลังจากเขาถอดเสื้อผ้าออกหมด ยกเว้นชุดชั้นใน
อุปสรรคสำคัญที่สุดในเวลานี้คือ การขาดความรู้เกี่ยวกับชนเผ่าเซนทิเนล ลูกหลานกลุ่มสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ยุคแรกที่มาอยู่ในเอเชีย และมาร์โค โปโล นักสำรวจและนักผจญภัยในศตวรรษที่ 13 เคยบรรยายว่าเป็นชนเผ่าดิบเถื่อนและโหดร้าย คาปูร์ กล่าวว่า เราไม่มีเบาะแสอะไรเลยเกี่ยวกับระบบสื่อสาร ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แล้วเราจะเข้าใกล้พวกเขาได้อย่างไร
“เรารู้แค่ว่าในอดีต พวกเขาเคยถูุกอังกฤษและญี่ปุ่นเข่นฆ่าา พวกเขาเกลียดคนในเครื่องแบบ หากเห็นใครในเครื่องแบบ พวกเขาจะฆ่าทิ้งทันที ปล่อยให้พวกเขาอยู่แบบนั้น ให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขในระบบนิเวศน์วิทยาที่พวกเขาอยู่ในเวลานี้ อย่าไปรบกวนเพราะมีแต่จะทำให้พวกเขาก้าวร้าวมากขึ้น”
ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบตกที่นั่งลำบาก ไม่มีคำตอบให้กับครอบครัวของเชาว่าเมื่อไหร่จะได้รับศพของบุคคลอันเป็นที่รัก ขณะเดียวกันก็ยังจะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรอบเกาะเซนทิเนลเหนือไว้ ซึ่งเป็นหัวใจความอยู่รอดของชนเผ่ายุคเก่านี้ต่อไป
แต่เมื่อพิจารณาถึงคำแนะนำนักมานุษยวิทยา และข้อจำกัดทางกฎหมายในการขึ้นไปบนเกาะแห่งนี้แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าสุดท้าย อาจไม่มีวันกู้ศพของหนุ่มวัย 27 ปีคนนี้จากเกาะต้องห้ามในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ออกมาได้ ขณะสื่ออินเดียอ้างแหล่งข่าวว่า ครอบครัวของเชา แจ้งกับทางการอินเดียแล้วว่าไม่ควรไปรบกวนชนเผ่าเซนทิเนล ทั้งยังขอร้องทางการละเว้นเอาผิดชาวประมงและเพื่อนของเชารวม 7 คนที่มีส่วนช่วยพาเขาไปที่เกาะต้องห้าม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง