ข่าว

เจ้าบ่าววัย 41เผยแต่ง 11ขวบเป็นเมียคนที่สามไม่ผิด 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

องค์กรเด็กและนักเคลื่อนไหวทั่วมาเลเซียประสานเสียงเรียกร้องรัฐบาลแบนวิวาห์ผู้เยาว์ 

 

                            ข่าวการแต่งงานระหว่างเด็กหญิงวัย 11 ปีซึ่งสื่อมาเลเซียระบุว่าเป็นคนไทย กับชายชาวมาเลเซียวัย 41 ปี ที่มีภรรยาแล้ว 2 คนและลูก 6 คน จากเมืองกัวมูซัง รัฐกลันตัน จุดกระแสไม่พอใจอย่างมากในสังคมมาเลเซีย  ( อ่านต่อ..พ่อลูก 6 มาเลเซียแต่งเด็กไทยวัย 11 ปีเป็นภรรยาคนที่สาม)  แม้ว่าพ่อแม่ยินยอมและมีเงื่อนไขว่าเด็กต้องอายุครบ 16 ปี จึงค่อยไปอยู่กินฉันท์สามีภรรยา

                         

 

 

เจ้าบ่าววัย 41เผยแต่ง 11ขวบเป็นเมียคนที่สามไม่ผิด 

 

( อ่านต่อ..พ่อลูก 6 มาเลเซียแต่งเด็กไทยวัย 11 ปีเป็นภรรยาคนที่สาม)

 

                            ชาวสื่อสังคมออนไลน์พากันก่นประณามฝ่ายชาย ขณะที่องค์กรประชาสังคมสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นแนวร่วมเอ็นจีโอในมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า การแต่งงานเด็ก เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่าที่ไหนในโลก ขัดหลักฐานพื้นฐานของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่มาเลเซียเป็นภาคี 

                           แถลงการณ์ระบุว่า สิทธิของเด็กในด้านสุขภาพ การศึกษาและการคุ้มครองจะถูกทำลาย หากจุดสนใจของเด็กหันเหไปจากการศึกษาหาความรู้ในโรงเรียนให้จบ มาเป็นการทำหน้าที่ในครอบครัว และเป็นพ่อแม่  

                           องค์กรจึงขอเรียกร้องรัฐบาลดำเนินมาตรการเร่งด่วนอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ล้มเลิกประเพณีที่ไม่คำนึงถึงสุขภาพเด็ก กำหนดอายุขั้นต่ำอนุญาตให้แต่งงานได้ เป็น 18 ปี และรักษาสัญญาที่รัฐบาลแนวร่วมแห่งความหวัง หรือ ปากาตัน ฮาราปัน ได้ประกาศไว้ในประเด็นนี้ 

                           อีกด้านหนึ่ง เดอะสตาร์ สื่อมาเลเซีย รายงานอ้างคำพูดของเด็กหญิงว่า เธอรักเจ้าบ่าวตั้งแต่อายุ 9 ขวบ บ้านของเธออยู่ติดกับบ้านภรรยาคนแรกของเขาเขาดีกับครอบครัวของเธอมาก เมื่อขอแต่งงานจึงตอบตกลง 

                           ด้าน เจ้าบ่าววัย 41 กล่าวว่า แต่งงานกับเด็กหญิงเพราะรักกันมา 3 ปีแล้ว เขาพบกับว่าที่ภรรยาคนที่สามครั้งแรกตอนที่เด็กหญิงติดตามมารดาไปทำงานที่ร้านอาหารของภรรยาคนแรก เราทำความตกลงกันว่า เธอจะอยู่กับพ่อแม่จนอายุ 16 เมื่ออายุถึง 16 ปี ค่อยมารับรองการแต่งงานกับสภาศาสนาในไทยและมาเลเซีย

                           หนุ่มใหญ่กล่าวด้วยว่า เขาไม่คิดว่ากำลังทำอะไรผิด เพราะเป็นการแต่งงานกับเด็กหญิงโดยพ่อแม่อนุญาต รวมถึงได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ของเขาเองกับภรรยาคนแรก แต่ภรรยาคนที่สองไม่ยินยอม เลยต้องแต่งงานแบบลับๆ ส่วนเรื่องที่ภรรยาคนที่สองขอหย่า เขายังไม่ตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมา รับผิดชอบหน้าที่ทั้งในฐานะพ่อและสามีเป็นอย่างดี 

                           ด้าน หัวหน้าผู้พิพากษาศาลศาสนา รัฐกลันตัน ดาโต๊ะ ดาอุด มูฮัมหมัด กล่าวว่า แม้ทั้งสองแต่งงานในต่างประเทศ ( มีรายงานว่าทั้งสองมาแต่งงานที่นราธิวาส ) แต่การแต่งงานกับผู้เยาว์ ต้องได้รับความเห็นชอบจากศาลศาสนาก่อน ไม่เช่นนั้น จะถือเป็นความผิดมีโทษปรับ 1,000 ริงกิต ( 8,800 บาท) หรือจำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำและปรับ ด้าน สำนักงานศาสนาอิสลามรัฐกลันตัน ระบุว่าได้เริ่มสอบสวนกรณีนี้แล้ว 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ