ซัมซุงโล่ง ศาลเกาหลีใต้ไม่อนุมัติหมายจับทายาทรุ่นสาม ชี้หลักฐานของอัยการยังไม่ชัด
19 ม.ค. ศาลในกรุงโซลมีคำตัดสินเมื่อเวลา 4.53 น. วันนี้ ปฏิเสธอนุมัติออกหมายจับ นายอี แจ ยอง ทายาทซัมซุง กรุ๊ป ตามที่อัยการยื่นเรื่องเมื่อวันจันทร์ เพื่อร้องขอควบคุมตัวสอบสวนในข้อหาจ่ายสินบน ยักยอกและให้การเท็จ ส่วนหนึ่งของคดีทุจริตอื้อฉาวที่นำไปสู่กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีปัก กึน เฮ
ศาลให้เหตุผลว่า ยังขาดหลักฐานและยังมีประเด็นโต้แย้ง จึงยากจะยอมรับเหตุผล ความจำเป็นและความเหมาะสมในการจับกุมสำหรับการสอบสวนในขั้นนี้
หลังศาลได้ข้อสรุป นายอี วัย 48 ปี ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำทางใต้ของกรุงโซลทันทีเมื่อเวลา 5.00 น. หลังจากถูกคุมตัวระหว่างรอคำตัดสินของศาลเกือบ 14 ชั่วโมง
ทีมอัยการอิสระที่สอบสวนคดีนี้ กล่าวหาว่า ทายาทรุ่นที่สามของซัมซุง จ่ายสินบนรวมเป็นเงิน 4.3 หมื่นล้านวอน ( 1,200 ล้านบาท ) ให้กับนางชเว ซุนซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดี เพื่อแลกกับการให้รัฐบาลสนับสนุนการควบรวมกิจการของบริษัทสองแห่งในเครือซัมซุงในปี 2558 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการเตรียมพร้อมให้บุตรชายคนเดียวของนายอี คุน ฮี ประธานกลุ่มซัมซุงที่ป่วยอยู่ ขึ้นกุมบังเหียนอาณาจักรธุรกิจต่อ แต่การควบรวมกิจการสองบริษัทเต็มไปด้วยข้อกังขาของนักลงทุน ข้อหายักยอกมาจากการที่นายอีใช้เงินกองทุนบริษัทเพื่อการนี้ และข้อหาให้การเท็จ มาจากการโกหกระหว่างให้การภายใต้คำสาบานต่อรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว
นายอี ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ปฏิเสธทุกข้อหา
การปฏิเสธออกหมายจับ สร้างความโล่งอกแก่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์หนึ่งของโลก และเป็นบริษัทที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ เนื่องจากนายอีเป็นประธานซัมซุงทางพฤตินัยมาตั้งแต่บิดาของเขาล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเมื่อปี 2557 แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ทำลายความหวังของทีมอัยการที่พยายามเร่งสอบสวนเอาผิดประธานาธิบดีปักกึนเฮ นางชเว และขยายผลสอบสวนไปยังบริษัทอื่นๆที่บริจาคเงินหลายล้านดอลลาร์เข้ามูลนิธิที่นางชเวตั้งขึ้นมาเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว
มีรายงานว่า ทีมกฎหมายของนายอี แจ ยองให้ภาพว่า ซัมซุงเป็นเหยื่อของการกรรโชกทรัพย์ บริษัทถูกประธานาธิบดีปักกึนเฮ ผู้มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ กดดันให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเพื่อนสนิทของเธอ และไม่มีหลักฐานชี้ชัดได้ว่า ซัมซุงได้สิ่งใดตอบแทน นอกจากนี้ การจับกุมตัวนายอี จะก่อสุญญากาศด้านบริหาร ที่เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง