กลุ่มติดอาวุธสุดโหด บุกถล่มมหาวิทยาลัยในกรุงคาบูล นศ.-อาจารย์หนีตายจ้าละหวั่น ทวิตวอนช่วย ก่อนจบนองเลือด เหยื่อดับ 13 ราย เป็นนศ.7
เกิดเหตุนองเลือดในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถานอีกครั้งหนึ่ง กลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย บุกโจมตีมหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งอัฟกานิสถาน ในกรุงคาบูล เมืองหลวง เริ่มจากคนร้ายโจมตีแบบฆ่าตัวตายขับรถยนต์บรรทุกระเบิดพุ่งชนกำแพงเบิกทาง ก่อนมือปืนเข้าไปกราดยิง ในช่วงที่มีนักศึกษาซึ่งส่วนใหญ่ทำงานแล้วและมาเรียนภาคค่ำแน่นห้องเรียน
ตำรวจอัฟกันระบุว่า เป็นสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน ขณะเกิดเหตุ มีนักศึกษา-อาจารย์ และบุคลากรอื่นๆอยู่ประมาณ 750 คน
เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่าที่ปรึกษาทางทหารของนาโตช่วยให้คำปรึกษาแก่กองกำลังปฏิบัติการพิเศษอัฟกันในการเข้าคลี่คลายสถานการณ์
สถานการณ์ยืดเยื้อเกือบ 10 ชม. เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 น.ของวันพุธที่ 24 ส.ค. ก่อนจบลงในเช้าของอีกวัน โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ่้น 13 คน จำนวนนี้เป็นนักศึกษา 7 คน ตำรวจ 3 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 2 คน ตำรวจวิสามัญคนร้าย 2 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักศึกษา 35 คน ตำรวจ 9 คน
นักศึกษาจำนวนมากพากันซ่อนตัวอยู่ภายในห้องเรียนในสภาพตื่นตระหนก หลายคนโพสทวิตเตอร์ร้องขอความช่วยเหลือ และบางคนกระโดดลงมาจากชั้นสองของตึก ทำให้ขาหักหรือศีรษะบาดเจ็บ นักศึกษาหลายคนเล่าด้วยว่า ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืนดังสนั่น ภายในห้องเรียนเต็มไปด้วยฝุ่นควัน
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประณามการโจมตีมหาวิทยาลัยว่าเท่ากับการโจมตีอนาคตของอัฟกานิสถาน
มหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งอัฟกานิสถาน เป็นมหาวิทยาลัยไม่แสวงหากำไร เริ่มเปิดรับนักศึกษาเมื่อปี 2549 ปัจจุบัน มีนักศึกษาหลากหลายภาควิชาระดับปริญญาตรีและโทกว่า 1,700 คน ถูกมองว่าเป็นเป้าหมายของพวกหัวรุนแรงเพราะมีบุคคลากรคณะเป็นชาวต่างชาติหลายคน
สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยชาวอเมริกันและออสเตรเลียรวม 2 คนถูกคนร้ายจี้ลักพาตัวในคาบูล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทำนองนี้ครั้งแรก จนถึงปัจจุบันยังไม่รู้ชะตากรรมของทั้งสอง และยังไม่มีกลุ่มใดอ้างมือเช่นเดียวกับการโจมตีมหาวิทยาลัยอย่างอุกอาจครั้งล่าสุด แต่ตาลีบันตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง