ข่าว

เอฟบีไอสอบหาตัวการแฮคอีเมลป่วนเดโมแครต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทีมหาเสียงฮิลลารีปักใจเชื่อ”มอสโก”ตัวการแฮคอีเมล์เดโมแครต หวังส่ง”ทรัมป์”คุมทำเนียบขาว เอฟบีไอเริ่มสอบ 


          สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เริ่มสอบสวนแล้ว กรณีมีมือดีแฮคอีเมล์ของพรรคเดโมแครตและรั่วให้เวบไซต์เปิดโปงความลับ”วิกิลีกส์” นำมาแฉ สร้างความปั่นป่วนก่อนหน้าจนถึงเริ่มการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต (ดีเอ็นซี) วันแรก เพื่อรับรองการเสนอชื่อนางฮิลลารี คลินตัน เป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของพรรคอย่างเป็นทางการ หลังเนื้อหาในอีเมล์เหล่านั้นเปิดโปงว่า บรรดาแกนนำของพรรคที่ควรวางตัวเป็นกลาง แต่กลับพยายามบั่นทอนการหาเสียงของ ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส คู่แข่งชิงเป็นตัวแทนพรรคของนางฮิลลารี และตั้งคำถามความเป็นยิวของแซนเดอร์ส ส่งผลให้ประธานหญิงของดีเอ็นซีลาออกก่อนการประชุมเริ่ม

          เอฟบีไอเผยว่ากำลังสอบสวนเป็นกรณีบุกรุกทางไซเบอร์ โดยไม่ได้เอ่ยถึงตัวการแฮคต้องสงสัย 

          แต่ทีมหาเสียงของนางคลินตัน ที่พยายามจะสยบกระแสความไม่พอใจภายในก่อนส่งนางฮิลลารีเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อชิงประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคกระแสหลัก ดูจะปักใจเชื่อไปแล้วว่า รัฐบาลมอสโกอยู่เบื้องหลังเพื่อพยายามเข้ามามีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

          นายรอบบี มุก ผู้จัดการทีมหาเสียงของนางฮิลลารี กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกเราว่า เป็นการกระทำของรัสเซียเพื่อช่วยเหลือโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวของพรรครีพับลิกัน ที่เคยพูดชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียอย่างไม่ปิดบังหลายครั้ง ทำให้คาดเดากันไปว่าปูตินอาจช่วยให้มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์อย่างทรัมป์ เป็นประมุขทำเนียบขาว

          ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียถูกพาดพิง คราวด์สไตรค์ บริษัทรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ที่รับมือกับการเจาะระบบของดีซีเอ็นเมื่อเมษายน ระบุผู้อยู่เบื้องหลังว่าเป็น“ ผู้ไม่หวังดีช่ำชองสองราย”ที่เชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย 

เอฟบีไอสอบหาตัวการแฮคอีเมลป่วนเดโมแครต

          ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ข้อมูลที่แฮคเกอร์ขโมยนั้น รวมถึงข้อมูลวิจัยต่อต้านทรัมป์

          ด้าน โทมัส ริด ผู้ขียนหนังสือ “"Rise of the Machines” และศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงศึกษาที่คิงส์ คอลเลจ กรุงลอนดอน เชื่อว่า มีหลักฐานมีน้ำหนักที่เชื่อมโยงปฏิบัติการจากรัสเซียกับการเจาะระบบของดีเอ็นซี ปฏิบัติการนี้สอดคล้องกับหลักนิยมทางทหารใหม่ของรัสเซียในสงครามยุคใหม่ และการนิ่งเฉยของสหรัฐคือความเสี่ยงในการวางบรรทัดฐานไปโดยปริยายว่าการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทุกครั้งในอนาคต และทุกหนแห่ง คือเกมที่ใครจะเข้าไปทำอะไรก็ได้ 
      
          แต่ เจมส์ ลูวิส ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ ศูนย์ระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ศึกษา เตือนว่ารัสเซียอาจเกี่ยวข้องกับการแฮค แต่ไม่จำเป็นว่าอยู่เบื้องหลังการรั่ว หากมี“คนใน”สักคน ใช้รัสเซียเป็นข้ออ้างก็ไม่ใช่เรื่องยาก 
    
          เช่นเดียวกับ บรูซ ชไนเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีที่ Resilient ในเครือไอบีเอ็ม กล่าวเตือนให้ระมัดระวังในการคาดเดา เพราะการหาเบื้องหลังการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต เป็นเรื่องที่ยากมาก และหลายกรณี อาจไม่มีวันรู้ได้เลยว่าใครทำ
    
          ด้าน นายจูเลียน อาซานจ์ ผู้ก่อตั้งเวบไซต์วิกิลีกส์ กล่าวกับเอ็นบีซี นิวส์ ว่าไม่พบหลักฐานว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการรั่วข้อมูล แต่ก็จะไม่ขยายความว่าเวบไซต์จอมแฉของเขา ได้อีเมล์แกนนำพรรคเดโมแครต 7 คนจำนวนเกือบ 2 หมื่นฉบับระหว่างมกราคม 2558-พฤษภาคม 2559 มาได้อย่างไร

เอฟบีไอสอบหาตัวการแฮคอีเมลป่วนเดโมแครต

  
          บรรยากาศการประชุมดีเอ็นซีวันแรกสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพอย่างเห็นได้ชัด ผู้สนับสนุนของคลินตันกับแซนเดอร์ ส่งเสียงโห่ เชียร์ และล้อเลียนตอบโต้กัน ขณะที่สว.แซนเดอร์ ขอร้องผู้สนับสนุนเห็นแก่ความเป็นเอกภาพของพรรค และมุ่งเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ