'สื่อ'วิเคราะห์!การเมืองไทยไม่จบง่าย

               28 พ.ย.56 สำนักข่าวซินหัว ออนไลน์ รายงานบทวิเคราะห์ว่า ความไม่สงบทางการเมืองที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ในประเทศไทย ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุด เมื่อผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล เดินขบวนเข้าบุกยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้ซักฟอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร

               ทั้งนี้ บรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ในการทำนายอนาคตของรัฐบาลปัจจุบัน และความเป็นไปได้ที่ว่า ทหารอาจจะก่อรัฐประหาร ก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย ตระกูลวรานนท์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ในปัจจุบันว่า อาจเป็นไปได้ 3 สถานการณ์ ซึ่งสถานการณ์แรก คือ นายกรัฐนตรีลาออก และสภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนสถานการณ์ที่สอง ที่มีแนวโน้มน่าจะเกิดขึ้น คือ การประท้วงบนถนนนำไปสู่การยุบสภาฯ และจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ในระหว่างที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเวลา 2 วัน ที่เริ่มเมื่อวานนี้ ทำให้ไม่สามารถยุบสภาฯได้ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะต้องไปจนกว่าการอภิปรายจะสิ้นสุด

               อีกทั้ง เมื่อช่วงต้นเดือน พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมด้วย และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีมหาดไทย และยังยื่นถอดถอนทั้งสองคน รวมทั้งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในข้อกล่าวหาต่าง ๆ รวมทั้ง วางแผนใช้อำนาจออกกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์มิชอบ

               ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ได้กล่าวโจมตีน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเรียกเธอว่าเป็นศูนย์กลางปัญหาทุจริต ซึ่งผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย มองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะชนะด้วยเสียงข้างมากในสภาฯ ที่โหวตกันในวันนี้ แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปไตยจะได้จากการอภิปรายในครั้งนี้ รวมถึงมวลชนที่ประท้วงบนถนน ก็คือ การสนับสนุนที่แข็งแกร่งขึ้น

               ในกรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นรัฐบาลในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย จากการที่เหล่านักการเมืองที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 109 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองไป 5 ปี จะพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในเดือนหน้า และเหล่านักการเมืองที่ช่ำชองเหล่านี้ ก็จะกลับมาลงเลือกตั้ง และช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ

               แต่อาจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาของมหาวิทยาลัยเกียวโตของญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่า ผู้ประท้วงจะยังคงไม่พอใจ แม้ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะลาออก หรือยุบสภาเพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะพวกเขาต้องการล้างระบอบทักษิณ ซึ่งอาจารย์ปวิน ได้เสนอความเห็นด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่การประท้วงบนถนนจะยุติลง ในกรณีที่ทหารทำรัฐประหาร

               อาจารย์ปวิน บอกด้วยว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันอาจจะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนรัฐบาลไม่สามารถธำรงหลักนิติธรรรมเอาไว้ได้ หรือควบคุมสถานการณ์ได้ และทหารอาจออกมาโค่นล้มรัฐบาล หลังจากเคยทำมาแล้วในยุคของรัฐบาลภายใต้การนำของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกโค่นอำนาจเมื่อปี 2549

               แม้ว่า บรรดาผู้นำเหล่าทัพจะย้ำปฏิเสธหลายครั้ง ในเรื่องที่มีการคาดการณ์ว่า อาจมีการทำรัฐประหารโค่นรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประท้วงพอใจและยุติการออกไปเดินขบวนบนถนน

               แต่สำหรับผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย ได้เสนอสถานการณ์ที่ 3 ว่า อาจเป็นไปได้ที่ทุกพรรคการเมืองในสภาฯ มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จากพรรคการเมืองทุกพรรค แต่ก็มีโอกาสที่้จะเกิดขึ้นน้อยมาก