แม่นแล้ว-ลูกน้ำ "อั้มเมืองลาว" ใต้เงามายาสองฝั่งโขง

 

          วันนี้ดาราสาวที่คนไทยพูดถึงทุกวันหนีไม่พ้นสาวหน้าหวานจากฝั่งลาว "ลูกน้ำ" ทิดาลัด วงสิหลิ" ไปได้

          อาจเพราะข่าวรักซ้อนของเราสองสามคน ที่ว่ากันว่าเธอไปเป็นมือที่สามระหว่าง “ตูมตาม” ยุทธนา เปื้องกลาง หรือ ตูมตาม เดอะสตาร์ (ผู้ชนะเลิศจากรายการเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 7) กับ “ญิ๋งญิ๋ง” ศรุชา เพชรโรจน์ ดาราสาวสวยจากละครเรื่อง “สงครามนางงาม”

 

 

          แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไรเชื่อว่าดราม่านี้ยังไม่จบลงง่ายๆ โดยเฉพาะตอนนี้ฝ่ายตูมตามและฝ่ายสาวลาวกำลังโดนถล่มอย่างหนักทั้งคู่!

 
เธอคือใคร

          พักเรื่องวุ่นๆ มาว่ากันที่สาวลูกน้ำกันดีกว่า รายนี้ต้องบอกว่าแรงจริง ไรจริง เพราะฉายา “อั้มเมืองลาว” ที่เธอได้มา น่าจะทำให้คนไทยนึกออกถึงดีกรีความปังของเธอแล้ว

          แต่ที่ว่าแรงๆ ปรากฏว่าเส้นทางสายแสงสีบันเทิงของลูกน้ำ ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นเอาเมื่อยุงชุมตอนนี้ เพราะเธอเริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงลาวตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี โดยถ่ายแบบลงนิตยสารหลายเล่ม โดยเฉพาะนิตยสาร “มหาชน” อันโด่งดังของลาว ก็มีหน้าของเธอขึ้นปกมาตั้งแต่ฉบับที่ 104 (ช่วงเดือนธันวาคม 2553)
ในด้านการศึกษา ข้อมูลระบุว่าช่วงที่เธออายุ 14 ปี ครอบครัวสูญเสียเสาหลัก เพราะบิดาของเธอเสียชีวิต ลูกน้ำจำต้องทิ้งความฝันที่จะได้เรียนต่อเมืองนอก

 

 

          ดังนั้นหลังจากจบมัธยมจากโรงเรียนมัธยมสมบูรณ์เวียงจันทน์ ริมถนนล้านช้าง เธอก็เรียนต่อจนจบปริญญาตรี ทางด้านภาษาอังกฤษเพื่อการบริหาร คณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยลัดตะนะบัณฑิต นครเวียงจันทน์

          และระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นั้นลูกน้ำก็ได้ลงประกวดนางงามหลายเวที จนมาประสบความสำเร็จเอาช่วงปี 2554 ลูกน้ำในวัย 19 ชนะเลิศเวทีประกวดนางสาวลาวเป็น “มิสลาว 2011” จากนั้นก็โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงลาวเก็บเกี่ยวความดังมาตลอด

 

เครดิต :  สตูดิโออารมณ์ดี

          เธอเคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร MARS เครือผู้จัดการว่า เธอเคยฝันว่าอยากเปิดโรงเรียนสอนเด็กอนุบาล แต่ตอนนี้ได้เข้าวงการมาความคิดก็เปลี่ยนไปบ้าง สนใจงานด้านการแสดงเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความฝันที่จะทำเพื่อเด็กๆ ที่ขาดโอกาสในวันหนึ่ง

          ส่วนชีวิตในวงการนางแบบ เธอเคยเล่าว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งซึ่งเติบโตไปพร้อมกับวงการนางแบบลาว เพราะเดินสายแบบถ่ายแบบตั้งแต่ยุคแรกเริ่มที่เพิ่งเกิดไม่นานมานี้

          ว่ากันที่เวทีมิสาวสักนิด ข้อมูลจากเพจ “เปนเรื่อง-เปนลาว” เล่าว่าที่ลาวนั้นเพิ่งมีการประกวดมิสลาวครั้งแรกช่วงปี 2552 (ค.ศ.) 2009 มาจนถึงปัจจุบัน มีนางสาวลาว 9 คน

          หลายปีที่ผ่านมา พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ผู้ชี้ทิศนำทางทุกอย่างพยายามรักษาเอกลักษณ์การประกวดสาวงามตามขนบลาว

 

 

          เริ่มจากเวที “นางสาวอาภรณ์เพศทรงลาว” จัดโดยสหพันธ์แม่ญิง ก็เปลี่ยนมาเป็น “นางสาวลาว” ที่รับผิดชอบโดยกระทรวงแถลงข่าววัฒนธรรมและท่องเที่ยว

          ปัจจุบันศูนย์กลางชาวหนุ่มประชาชนปฏิวัติลาว (ชปล.) เป็นผู้ชี้นำการประกวดนางสาวลาว และด้วยสภาพเศรษฐกิจ-สังคม ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้ธุรกิจประกวดขาอ่อนจากต่างประเทศมาเบ่งบานในแผ่นดินจำปาบาน

          และ “ลูกน้ำ" ทิดาลัด วงสิหลิ ซึ่งเป็นตัวแทนจากนครหลวงเวียงจันทน์ ผู้คว้ามงกุฎมาครองได้นั้น ว่ากันว่าเธอคือเต็งหนึ่งมาแต่รอบแรก จนกลายเป็นนางสาวลาวลำดับที่ 3 นับแต่มีการประกวดมา

          แต่นั่นยังเด็ดไม่พอเท่ากับที่ว่าลูกน้ำนี่แหละที่นับเป็น "นางสาวลาว 2011” คนเดียว ที่โลดแล่นในวงการบันเทิง 2 ฝั่งโขง คือ ลาวก็มีไทยก็มา

 

 

ปังข้ามโข

          คงจำกันได้ราวสิบกว่าปีก่อนคนไทยเคยรัก “อเล็กซานดร้า บุญช่วย” เป็นอันมาก เธอคือสาวลาวที่ข้ามมาต่อยอดความโด่งดังที่เมืองไทยกับละคร “เพลงรักริมฝั่งโขง” ทางช่อง 7 ประกบ “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ

          วันนี้ถึงคิว “ลูกน้ำ” ที่พอ “มงลง” ปุ๊บ แสงไฟก็สาดส่องที่เธอจนมีงานเข้าไม่ขาดสายจนกลายเป็นซุปตาร์อันดับ 1 ของลาวในที่สุด

          นอกจากนี้สื่อมวลชนลาวยังระบุว่าลูกน้ำคนนี้เป็นคนที่วางตัวดี ทั้งกับสื่อมวลชนหรือแฟนคลับ ทำให้ใครๆ จึงพากันหลงรักเธอไปตามๆ กัน

          และในที่สุดเธอก็ข้ามโขงมาปังที่เมืองไทยช่วงปี 2559 เธอถ่ายเอ็มวีประกบคู่ “ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เพลง “เวลาเดียวกัน” จากนั้นปี 2560 ได้เจอกับพระเอกคนนี้อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง “มังกร นารี ปีศาจ” อีกด้วย แม่เรื่องนี้ประสบปัญหาบางประการทำให้เลื่อนฉาย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนไทยรู้จักและจดจำเธอมากขึ้น

 

 

          คาบเกี่ยวกันหันไปฝั่งลาว ปีนั้นเองลูกน้ำก็ได้สร้างชื่อเสียงในผลงานภาพยนตร์ลาวเรื่อง “หงส์หามเต่า (ข้อยตั๊วะเจ้า เฮาฮักกัน)" ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่กวาดรายได้ถล่มทลายในลาว 1,200 ล้านกีบ และประสบความสำเร็จเป็นหนังที่ผลิตโดยคนลาวเรื่องแรกที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศลาวได้สำเร็จในปี 2560 และยังเข้าฉายในบ้านเราด้วย

          เวลานั้นมีการเปิดวาร์ปค่าตัวของลูกน้ำ ระบุว่ารายได้ในการรับงานต่างๆ ค่าพรีเซ็นเตอร์ต่อครั้งของลูกน้ำราคาอยู่ที่หลักล้านบาทขึ้นไป ส่วนการรับงานถ่ายรูปรีวิวต่างๆ ราคา 30,000 บาทขึ้นไป

          มากน้อยขนาดไหนไม่ฟันธง แต่เธอก็ยังมีงานเข้ามาไม่ขาดสาย เช่นปี 2561 เธอรับเชิญมาแสดงในละครไทยซึ่งเป็นละครพีเรียดทางช่อง 8 “ซิ่นลายหงส์” ในบท “แม่เจ้าดาราไล”

          ล่าสุดมารับบทเป็นนางเอกละครไทยเต็มตัวครั้งแรกเรื่อง “ดอกคูนเสียงแคน” ทาง GMM 25 ที่บวงสรวงเปิดกล้องไปเมื่อปลายปีก่อน และยังอยู่ในขั้นตอนการถ่ายทำ

 

          และพระเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนที่กำลังเป็นข่าวสปาร์กกลางกองถ่ายด้วยกันอย่าง “ตูมตาม เดอะสตาร์" ดาราหนุ่มเลือดอีสาน เพราะมีพ่อเป็นคนโคราช ส่วนแม่เป็นคนชัยภูมิ

          เม้าท์กันว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงพูดจาภาษาเดียวกับลูกน้ำได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันลูกน้ำก็พูดจาภาษาไทยฉะฉานเพราะเคยลงคลาสพิธีกรในประเทศไทยมาก่อน

          วันนี้ในวัยเบญจเพสความดังกำลังถาโถมลูกน้ำพร้อมกับดราม่ารักซ้อน เพราะนอกจากแฟนคลับฝ่าย “ญิ๋งญิ๋ง” ดาราฝั่งไทยจะไม่ปลื้มเธอเอามากๆ ถึงขนาดมีการเปิดวาร์ปใบหน้าก่อนศัลยกรรมของลูกน้ำออกมาแฉ ยังมีปมเรื่องที่ว่าลูกน้ำเองก็มีแฟนอยู่แล้วเป็นระดับเศรษฐีชาวลาว

          งานนี้ถ้าใครเห็นลูกน้ำเข้าวัดเข้าวา ก็อย่าหาว่าไปแก้เคล็ดข่าวฉาวก็แล้วกัน เพราะถ้าเป็นแฟนคลับตัวจริงจะรู้ว่าเธอนั้นชอบทำบุญและเดินทางไปในท้องที่ไกลๆ เพื่อสอนหนังสือเด็กๆ อีกด้วย

          งามทั้งใจและใบหน้าจริงๆ