'ณเดชน์' ชวนคนไทยดูหนังไทย

         ใกล้เข้าโรงภาพยนตร์เต็มทีสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “นาคี2” ซึ่งเรื่องนี้ไปแถลงข่าวไกลถึงป่าคำชะโนด ได้ถามความรู้สึกของ ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงหนังเรื่องนี้ได้ความว่า

         "เรื่องนี้ปังไม่ปังไม่รู้แต่ต้องมาดูให้ได้ เพราะพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) ก็ทำงานเต็มที่ ทีมนักแสดงก็สนุกมากใครที่ชอบนาคีในเวอร์ชั่นละครอยากให้มาลอง นาคีภาค2 ในแบบฉบับภาพยนตร์ เพราะเป็นการต่อยอดจากละคร เรื่องนี้เราพูดถึงความเชื่อ ความศรัทธา ศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กับวัฒนธรรม ประเพนีคนไทยมาอย่างยาวนาน และอีกอย่างหนึ่งที่พี่ออฟอยากจะบอกคือไม่อยากให้มันสูญหายไป อยากให้ทุกคนเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานจะได้ไม่ลืมกันไปนี่น่าจะเป็นประเด็นหลักที่ผมอยากบอกทุกคน ถามว่ามาเล่นเรื่องนี้ยากไหม ไม่ยากเท่าไหร่ เพียงแต่บางอย่างต้องเล่นกับซีจี อันนี้อาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนิดหนึ่ง เรื่องนี้มีซีจี รายละเอียดค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวเราก็อยากทำออกมาให้มันดีที่สุด ออกมาให้สวยงามให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจ และซีจีเรื่องนี้ก็เป็นฝีมือของคนไทยด้วยกันเองทุกอย่างเป็นผลงานคนไทยก็อยากให้ทุกคนสนับสนุนหนังไทยด้วยกัน

         ส่วนเรื่องภาษาแปลกมาก คือผมเป็นคนอีสานแต่ต้องพูดภาษากลาง ในเรื่องมาจากกรุงเทพฯ แต่ลูกครึ่งอย่างน้องญาญ่าต้องพูดอีสาน ก็แปลกๆ เพราะตั้งแต่เล่นละครมา ผมไม่เคยได้พูดภาษาอีสานสักครั้ง ผมไม่กดด้นนะเพราะในฐานะนักแสดงผมก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ที่สุดแล้ว ส่วนภาษาอีสานของญาญ่าจะเป็นภาษาอีสานแบบอุบลซึ่งสำเนียงจะคนละอย่างกับขอนแก่น เวลาที่เราไปสอนเขาเขาก็จะปิดหู เขาบอกว่าคนละสำเนียงกันเลย คือพี่อ๊อฟจะเอาคุณครูที่เป็นชาวอุบลมาสอนเลย ตอนเขาพูดอีสานผมว่าเพราะนะ เพราะมันจะมีความเนิบๆ อีกแบบหนึ่ง คือสำเนียงจะไม่เหมือนกัน เขาจะเข้าใจง่าย (ญาญ่าลงภาพอวยพรวันเกิดพี่อ๊อฟคู่กับ ณเดชน์ แล้วบอกหล่อกินกันไม่ลงเลย) ถือเป็นโอกาสที่น้องได้อวยพรพี่อ๊อฟมากกว่า”

         ล่าสุดเห็นว่าไปมอบของให้เด็กๆ ที่โรงเรียนบ้านห้วยน้ำไซ ซึ่งพระเอกคนดังกล่าวว่า

         “ไปที่ชุมชนบ้านร่องกล้า เพชรบูรณ์ เคยไปถ่ายละครเรื่อง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว”ที่ ภูลมโล เลยมีโอกาสได้เจอคุณครูและน้องๆ เลยตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสก็กลับไปหาน้องๆ ชุมชนเขาก็ปลูกพืชผักกินกันเอง ขายด้วย เขาก็ใช้ปุ๋ยขี้ไก่ ไม่ได้ใช้สารเคมี เป็นชุมชนชาวม้ง ที่มีคนไทยด้วย อยากจะสนับสนุนเขาหลายๆ อย่างก็เอาผลไม้ ผัก เอากลับมาให้ที่บ้านกิน คุณแม่ก็แฮปปี้ ตอนที่ไปก็อากาศดี ถ้ามีเวลาก็คงจะไปบ่อยๆ

         (เตรียมอะไรไปสอนน้องๆบ้าง) ก็เตรียมสมุดระบายสี เขาก็ตื่นเต้น ตอนพาเล่นภาษาอังกฤษ สูตรคูณ ไม่ค่อยสนใจ แต่พอเอาสมุดระบายสีมากาง ทุกคนต่อแถว นั่งระบายสีไม่คุยกันเลย แล้วก็เดินมาขออีก เอาตัวนี้ไม่เอาตัวนี้ ผู้หญิงอยากได้กระต่าย ผู้ชายชอบไดโนเสาร์ อยู่กับเด็กๆ ปวดหัวมาก (ยิ้ม) ไปเป็นครูก็สนุกนะ ไปครั้งเดียวไม่ได้หนักหนาอะไร แต่การใช้ชีวิตดูแลลูกของคนอื่น เป็นเวลาหลายๆ วันต้องมีความอดทนสูง ก็เห็นใจคุณครูทุกที่ (ณเดชน์ให้ความสำคัญกับน้องๆเด็กๆเรื่องการเรียน) อาจเป็นเพราะว่า เราสนุกที่จะทำแบบนี้ด้วย พอมีโอกาส มีคอนเน็คชั่นเราก็อยากที่จะไปทำ เป็นโอกาสดีๆที่จะทำ ถ้ามีโอกาสคงทำเรื่อยๆ” ณเดชน์ กล่าว