กว่า 2 แสนคน“หัวใจ”เสี่ยง! “รพ.มงกุฎวัฒนะ”ผ่าตัดฟรีให้ไม่ได้

      ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป คนไข้ที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองซึ่งมีสิทธิการรักษาอยู่ที่รพ.มงกุฎวัฒนะ กว่า 2 แสนคน หากป่วยด้วยโรคหัวใจต้องเข้ารับผ่าตัดหรือใส่สายสวนหัวใจ จะต้องจ่ายค่ารักษาเอง ไม่สามารถได้สิทธิ์รักษาฟรีที่นี่ หากต้องการรักษาฟรีต้องส่งต่อไปเข้ารับการรักษาที่รพ.อื่นแทน ไม่เว้นแม้แต่คนไข้ที่มีคิวนัดผ่าที่นี่แล้วในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.2560 ราว 40-50 ราย ต้องหารพ.ใหม่และรอคิวใหม่ นั่นเพราะ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ไม่ให้รพ.มงกุฎวัฒนะเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อด้านหัวใจ!!!

    “รพ.มงกุฎวัฒนะให้บริการผ่าตัดหัวใจและใส่สายสวนหัวใจรักษาคนไข้มากว่า 20 ปี เฉพาะในส่วนของคนไข้บัตรทองรักษามาตั้งแต่ปี 2553 โดยเป็นหน่วยบริการประจำและเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อการผ่าตัดหัวใจให้กับผู้ป่วยบัตรทองจากรพ.อื่นๆมานาน โดยปัจจุบันมีประชากรสิทธิบัตรทองในความรับผิดชอบของรพ.เดิมกว่า 1 แสนคน และปีนี้เพิ่งได้รับการร้องขอจากสปสช.ให้รับเป็นหน่วยส่งต่อคนไข้จากที่รพ.เดิมถอนตัวไปอีก 6 หมื่นราย รวมราว 2 แสนราย แต่วันดีคืนดีบอกรพ.มงกุฎวัฒนะไม่ผ่านเกณฑ์การเป็นหน่วยรับส่งต่อด้านหัวใจ” พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผูู้อำนวยการพ.มงกุฎวัฒนะ เปิดฉากให้ข้อมูลกับ “คมชัดลึก”

    พล.ต.นพ.เหรียญทอง อธิบายความต่อว่า สปสช.บอกให้รพ.มงกุฎวัฒนะต้องจัดหาศัลยแพทย์หัวใจมาประจำที่รพ.จันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ อย่างน้อย 1 คน จึงจะผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วยวิธีการผ่าตัดในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ.2560 ที่เลขาธิการสปสช.ลงนามเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 แต่รพ.มงกุฎวัฒนะขอยืนยันจะไม่ดำเนินการเช่นนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาตลอด 20 ปี รพ.มีการจัดระบบศัลยแพทย์รับผิดชอบดูแลคนไข้อยู่แล้วเป็นรูปแบบตารางเวร มีศัลยแพทย์ 8-9 คน จัดเวรดูแลรับผิดชอบคนไข้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด และศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดคนไข้หัวใจก็เป็นศัลยแพทย์หัวใจที่มีประสบการณ์ทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องจ้างศัลยแพทย์หัวใจมานั้งแปะเฉพา่ะจันทร์-ศุกร์ เป็นรูปแบบที่รพ.เอกชนต่างๆก็ล้วนดำเนินการเช่นนี้ และที่ผ่านมารพ.มงกุฎวัฒนะผ่าตัดหัวใจคนไข้ไปแล้วกว่า 1 พันราย และใส่สายสวนหัวใจแล้วกว่า 1 หมื่นราย 

     เกณฑ์ดังกล่าวที่สปสช.เพิ่งออกมา จริงๆจะต้องนำไปใช้กับหน่วยบริการนอกระบบบัตรทองที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะโรคหัวใจเท่านั้น ไม่ใช่นำมาใช้กับหน่วยบริการประจำที่ต้องรักษาผู้ป่วยบัตรทองทุกโรคอยู่แล้ว แต่เมื่อนำมาใช้กับรพ.ที่เป็นหน่วยประจำของบัตรทองด้วย เท่ากับว่าตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป คนไข้บัตรทองที่มีสิทธิอยู่ที่รพ.มงกุฎวัฒนะหากป่วยเป็นโรคหัวใจ จะไม่สามารถผ่าตัดหรือใส่สายสวนหัวใจฟรีได้ที่นี่ ต้องส่งต่อไปรับบริการที่รพ.อื่น  แต่หากต้องการรักษาที่นี่ก็ต้องจ่ายเงินเอง เพราะสปสช.จะไม่จ่ายเงินให้กับรพ.มงกุฎวัฒนะในกรณีรักษาคนไข้หัวใจ รวมถึง กรณีรพ.อื่นต้องการส่งต่อคนไข้หัวใจมารักษาที่รพ.มงกุฏวัฒนะก็ไม่สามารถส่งต่อมาได้เช่นเดิม เพราะสปสช.จะไม่จ่ายให้เช่นกัน ต้องส่งต่อไปที่รพ.อื่น โดยปัจจุบันรพ.เอกชนมีเพียงรพ.มงกูฎวัฒนะแห่งเดียวที่เป็นหน่วยบริการประจำและรับส่งต่อโรคหัวใจ แต่รพ.รัฐก็จะมีหลายแห่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีคิวผ่าตัดแน่นทั้งสิ้น 

      “แบบนี้จะกลายเป็นว่ารพ.ต้องส่งต่อคนไข้ผ่าตัดหัวใจและใส่สายสวนหัวใจไปรพ.อื่น โดยเฉพาะรพ.รัฐที่มีศักยภาพที่ปกติคิวผ่าตัดแน่นอยู่แล้ว เพราะถ้าดื้อดึงรักษาให้คนไข้เอง รพ.มงกุฎวัฒนะก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หรือไม่คนไข้ต้องจ่ายเอง ราว1-2 แสนบาท เพราะสปสช.ไม่จ่ายให้ ถ้าเป็นแบบนี้จะกลายเป็นว่ารพ.มงกุฎวัฒนะต้องตกเป็นจำเลยของสังคม มีการพูดต่อไปว่า รพ.รักษาผ่าตัดหัวใจและใส่สายสวนหัวใจให้แต่เฉพาะคนรวย คนจนไม่รักษาส่งต่อไปที่อื่น ซึ่งไม่ใช่เราไม่รักษา  เราอยากรักษาเพราะเรามีศักยภาพทำได้ แต่สปสช.ไม่ให้เรารักษา”พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว 

     ที่เดือดร้อนแน่ๆ พล.ต.นพ.เหรียญทอง บอกว่า คือประชาชนที่มีสิทธิบัตรทองอยู่ที่นี่ราว 2 แสนคน รวมถึง คนไข้หัวใจจากรพ.ต่างๆที่ส่งต่อมาผ่าตัดที่นี่ เช่น พระนั่งเกล้า ภูมิพลและจากจ.นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี และอื่นๆ เป็นต้น จะมีคนไข้ส่งต่อกรณีนี้ทุกวัน จากนี้ก็จะต้องส่งต่อไปหน่วยบริการอื่น อย่างเช่น ไปโรงเรียนแพทย์  ซึ่งคิวการผ่าตัดก็แน่นอยู่แล้ว เพิ่มคนไข้เข้าไปก็ต้องรอคิวนาน ทุกวันนี้โรงพยาบาลรัฐบางแห่งก็ส่งต่อมาให้รพ.มงกุฎวัฒนะช่วยผ่าตัดให้ คนไข้จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน ปัจจุบันกรณีคนไข้บัตรทอง รพ.มงกุฎวัฒนะใส่สายสวนหัวใจปีละ 1.5 พันราย และผ่าตัด 160 รายต่อปีทั้งคนไข้ที่มีสิทธิอยู่ที่นี่และรับส่งต่อจากที่อื่น  

    "ถามว่าถ้ารพ.มงกุฎวัฒนะไม่สามารถผ่าตัดหัวใจและใส่สายสวนหัวใจให้คนไข้บัตรทอง รพ.จะเดือดร้อนหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ ปกติก็มีคนไข้ต่างชาติบินมาผ่าตัดหัวใจที่นี่อยู่แล้ว ไปทำตรงนั้นดีกว่ากำไรด้วยส่วนการดูแลคนไข้บัตรทองทุกวันนี้ขาดทุนปีละ 60 ล้านบาทอยู่แล้ว แต่เราต้องการช่วยคนไข้จึงยังอยู่ในระบบบัตรทอง และการรักษาตรงนี้คือความภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตคน เพราะการผ่าตัดหัวใจมันอยู่ที่ฝีมือ แต่คนที่จะเดือดร้อนจริงๆคือคนไข้ ทำไมรพ.มงกุฎวัฒนะส่งต่อคนไข้หัวใจไปผ่าตัดที่อื่น ทั้งที่เราผ่าตัดได้ เท่ากับว่าคนไข้ต้องเพิ่มระยะเวลาการรอคอยการรักษาระหว่างที่ประสานการส่งต่อ หรือบนรถพยาบาลส่งต่อไปอีก โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดกับชีวิตคนไข้ก็เพิ่มขึ้นอีก ไม่เข้าใจว่าจะต้องให้เกิดระบบแบบนี้เสี่ยงกับชีวิตคนไข้ทำไม ทั้งที่ที่นี่เรารักษาได้ ทำมา 20 กว่าปีแล้ว" พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว 

    ที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง บอกว่า ได้มีการพูดคุยหารือกับสปสช.หลายครั้ง ว่าไม่ควรนำเกณฑ์นี้มาใช้กับหน่วยบริการประจำ ควรใช้กับหน่วยบริการนอกระบบบัตรทอง ที่รับเฉพาะกรณีส่งต่อเท่านั้น แต่ไม่มีคนไข้บัตรทองประจำที่ต้องรักษา แต่ก็ไม่มีการรับฟัง จากนี้เร่งส่งหนังสือโดยด่วนที่สุดไปยังศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุขในฐานะประํานคณะกรรมหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทบทวนและกำหนดกฎเกณฑ์กันใหม่ ภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำเรื่องราวไปเบี่ยงสารกลายเป็นรัฐบาลออกกฎมาทำให้ผู้ป่วยบัตรทองเดือดร้อนไม่ได้รับการรักษา

      พล.ต.นพ.เหรียญทอง บอกว่า ที่แน่ๆในเร็วๆนี้ คือ กระทบคนไข้ที่มีคิวนัดผ่าตัดหัวใจที่รพ.มงกุฎวัฒนะในเดืิอนต.ค.-ธ.ค.2560 ราว 40-50 คนต้องยกเลิกไปและต้องส่งต่อไปรพ.อื่น คนไข้ต้องไปเริ่มต้นการรักษาและรอคิวผ่าตัดใหม่ หากไม่มีเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาจากกฎเกณฑ์นี้ของสปสช. 

สปสช.เร่งประสานรพ.อื่นผ่าตัดหัวใจคนไข้บัตรทองแทน"มงกุฎวัฒนะ"