Lifestyle

ม.พะเยา ก้าวสู่ม.แห่งการประกอบการ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ม.พะเยา ขึ้นแท่นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ ยกระดับชุมชน -ผู้ประกอบการ ดันงานวิจัยสู่ห้าง

          “ไทยแลนด์ 4.0 หรือประเทศไทย 4.0” อีกหนึ่งโจทย์ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทยใช้เป็นนโยบายในการเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนามหาวิทยาลัย หลักสูตร นิสิตนักศึกษา และงานวิจัย ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศไทย “มหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.)” หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศไทย สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ตามโมเดลเศรษฐกิจประเทศไทย 4.0 ที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ไปสู่ Value–Based Economy หรือ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

            ด้วยปณิธาน “ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน” มหาวิทยาลัยได้มีพันธกิจชัดเจน ในการเป็นมหาวิทยาลัย 4.0 ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ ทำงานเชื่อมโยงชุมชน และภาคอุตสาหกรรม ต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์

ม.พะเยา ก้าวสู่ม.แห่งการประกอบการ

             ศ.(พิเศษ) ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดี มพ. กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ทำงานเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมและชุมชน บูรณาการกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศและใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ จัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา (University of Phayao Science Park : UPSP) และศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ (University of Phayao Business Incubator : UPBI)  ขึ้น เป็นหน่วยงานเทียบเท่าระดับกอง , การขับเคลื่อนโครงการ 1 คณะ 1 โมเดล มาอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปี และพร้อมที่ต่อยอดส่งต่อขยายผลของโครงการ 1 คณะ 1 โมเดลให้เพิ่มมูลค่าและคุณค่าของต้นทุนทรัพยากรทางความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชุมชนยกระดับเป็นนวัตกรรม การเตรียมความพร้อมในการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการเทคโนโลยี นวัตกรรม และทรัพย์สินทางปัญญา การปรับรูปแบบการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย นำผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไปสู่เชิงพาณิชย์หรือใช้ประโยชน์ในเชิงสังคม และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในภาคเหนือใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของภาคเหนือ

            ในปี พ.ศ.2560 มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ ภายใต้โครงการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมเกิดใหม่ที่มีการเติบโตสูง (Innovative Startup) อาทิ กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนด้านความเป็นผู้ประกอบการแก่นิสิต, กิจกรรมการปรับปรุงและเตรียมพร้อมพื้นที่พัฒนานวัตกรรมร่วมกัน (Co-innovating space) โดยใช้พื้นที่ขนาด 1,000 ตารางเมตร ในอาคาร 99 ปี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺโญ) , กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ (UP Startup Inspiration Talk) ด้านความเป็นผู้ประกอบการ และโครงการResearch Commercialization for Startup (RC4S) ถ่ายทอดเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยและพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมใหม่ให้กับผู้ประกอบการและสนับสนุนงบดำเนินการแก่ผู้ประกอบการตามเงื่อนไขของโครงการเพื่อส่งเสริมให้มีการนำผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์ 

ม.พะเยา ก้าวสู่ม.แห่งการประกอบการ

          “มหาวิทยาลัยได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือโครงการส่งเสริมให้บุคลากรวิจัยในสถาบันอุดมศึกษาไปปฎิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรม (Talent Mobility) ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลมุ่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศ โดยศูนย์ประสานงานโครงการ Talent Mobility ม.พะเยา เป็นหน่วยงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและนักวิจัย จะทำหน้าที่เชื่อมโยงและประสานข้อมูลความต้องการระหว่างสถานประกอบการกับบุคลากรด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จนนำไปสู่การทำข้อตกลงความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย ในการดำเนินโครงการตลอดจนติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการเป็นระยะ” ศ.(พิเศษ) ดร.มณฑล กล่าว

          โครงการดังกล่าว มีการดำเนินการเป็นระยะ ได้แก่ ระยะ Pre-Talent Mobility กลไกเตรียมความพร้อมในการส่งบุคลากรด้าน วทน.จากมหาวิทยาลัยไปปฏิบัติงาน ระยะ TM-Training โครงการจัดฝึกอบรมหลักสูตรการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาบุคลากรรองรับโครงการดังกล่าว ซึ่งมหาวิทยาลัยจะทำการจัดการฝึกอบรมเป็นเวลา 5 วันทำการ

          ผศ.ดร.อัจฉราภรณ์ ดวงใจ นักวิจัย กล่าวว่าเธอรู้จักอุทยานวิยาศาสตร์ มพ. จาก ศ.เกียรติคุณ ดร.ไมตรี สุทธจิตต์และเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มทำวิจัยร่วมกับผู้ประกอบการ ซึ่งอุทยานวิทยาศาสตร์มีส่วนสนับสนุนด้านข่าวสารแหล่งทุนวิจัยการสนับสนุนทุนวิจัย และเป็นสื่อกลางในการติดต่อกับผู้ประกอบการ ที่ผ่านมามีโอกาสได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากอุทยานวิทยาศาสตร์ 2 โครงการ ในปี 2557 และปี 2559 และได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ Talent Mobility ในปี 2560 โดยได้ทำงานวิจัยร่วมกับคุณนฤมล ทักษอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ซึ่งประกอบการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกาแฟ โดยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและช่วยผู้ประกอบการพัฒนา เพิ่มมูลค่าของเนื้อผลกาแฟที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตกาแฟให้อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ

          “ควรมีการส่งเสริมโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะทุกคนที่เข้าร่วมต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน  ตัวอาจารย์รู้สึกมีความภูมิใจที่สามารถนำความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและเทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ประกอบการ ทำให้งานวิจัยสู่ห้างอย่างแท้จริง อีกทั้งการทำงานร่วมกับสถานประกอบการมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนให้กับนิสิต ส่วนนิสิตเองได้ประสบการณ์การทำงานวิจัย มองเห็นความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช่ในสถานการณ์จริง ดังนั้น อยากเชิญชวนนักวิจัยทุกคนลองทำวิจัยหรือลงไปมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน ที่จะทำให้นักวิจัยได้ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง” ผศ.ดร.อัจฉราภรณ์ กล่าว

ม.พะเยา ก้าวสู่ม.แห่งการประกอบการ

            ขณะที่ คุณนฤมล ทักษอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ผลิตภัณฑ์ยังไม่สามารถนำเสนอจุดขายได้ดีพอ แต่เมื่อได้เข้าร่วมกับ ผศ.ดร.อัจฉราภรณ์ ในการวิจัย Antioxidant ในชาเชอร์รี่กาแฟ โดยขอรับทุนสนับสนุนในโครงการของอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.พะเยา และต่อยอดงานวิจัยด้วยโครงการ Talent Mobility ทำให้ได้รับการจัดนวัตกรรมทั้งด้านธุรกิจ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งมาจากของเหลือทิ้งในโรงงานแปรรูปกาแฟ ทำให้ต้นทุนต่ำลง รายได้จากสินค้าใหม่เข้ามา ด้านภาพลักษณ์ สินค้านั้นได้รับการยอมรับจากตลาดทั้งใน และต่างประเทศ และด้านสิ่งแวดล้อม ทางบริษัทได้เข้าร่วมกับองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการทำงานบริษัทเอง

          อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการบริการจากอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.พะเยา ตั้งแต่ปี 2556-2560 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2556 มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 40 แห่ง ขยายเพิ่มมากขึ้น เป็น135 แห่ง ในปี 2560 หากผู้ใดสนใจเข้าร่วมโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ จากหิ้งสู่ห้าง จากมหาวิทยาลัยสู่สังคม สามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ทางอุทยานวิทยาศาสตร์ www.upsp.up.ac.thโทร.054-466666 ต่อ1283 และศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ www.upbi.up.ac.th  โทร.054-466666 ต่อ 1281

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ