ข่าว

นักวิชาการ ติง แจก ‘เงินดิจิทัล’ เพื่อไทยเสี่ยง เดิมพัน ‘การคลังของประเทศ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักวิชาการ ติงแจก ‘เงินดิจิทัล’ เชื่อเพื่อไทยหวัง กู้คะแนนเสียง แต่มีความเสี่ยงสูง เหตุเดิมพัน ‘การคลังของประเทศ’ ด้านหอการค้าเชียงใหม่ ชี้เม็ดเงินต้องลงสู่ระดับล่าง การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องดี แต่ต้องมีแผนในระยะยาวด้วย

หลังมีแถลงการณ์ของ 99 นักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ ที่มีชื่อของผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการของนักวิชาการ การเงิน การคลังประเทศ รวมทั้งอดีตผู้ว่าการและผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งต่างมีความคิดเห็นไป ในทิศทางเดียวกันว่า อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก "นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท" เพราะเป็นนโยบายที่ ได้ไม่คุ้มเสีย และในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่ารัฐบาลควรที่จะคำนึงถึง ความยั่งยืนของทางการคลังในระยะยาว หากมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือ กลุ่มคนรายได้น้อยก็ควรช่วยเหลือแบบเจาะจงไม่ใช่แบบเหวี่ยงแหที่กำลังจะทำอยู่นะขณะนี้

 

รศ.ดร.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ติงการสื่อสารทางด้านการเมืองรวมถึงการสื่อสารเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐยังมีปัญหา ในประเด็นของความสมเหตุสมผลของนโยบายที่กำลังมีนักวิชาการหรือประชาชนกังวลและสงสัยอยู่ ซึ่งในฝ่ายที่ขัดค้านเรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในฝ่าย มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลในการคัดค้าน ซึ่งตนคิดว่าเมื่อมีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่สวนทางกับรัฐบาลก็อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนได้ 

 

 

สิ่งหนึ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตคือ คนทุกกลุ่มมีความจำเป็นที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือไม่ ซึ่งจะแตกต่างกับนโยบายการแจกเงินของรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งการแจกเงินในตอนนั้นเป็นการแจกเงินให้กับประชาชนในช่วงที่มีสถานการณ์วิกฤติ เป็นการอัดฉีดเงินให้กับคนในหลายหลายกลุ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากมองในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เห็นวิกฤติอะไรที่จะต้องแจกเงินให้กับคนทุกกลุ่มในจำนวนเงินเท่านี้

 

 

หากมองในทางการเมืองพรรคเพื่อไทยก็ต้องการที่จะทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนในช่วงก่อนที่มีการเลือกตั้งซึ่งหากนโยบายนี้ไม่สามารถทำได้ก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมาว่าพรรคเพื่อไทยทำไมไม่สามารถทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชนได้ ทำให้ในตอนนี้พรรคเพื่อไทยเหมือนทุ่มหมดหน้าตักเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงฟื้นฟูความเชื่อมั่น ความนิยมของประชาชนในของพรรคเพื่อไทยกลับมาอีกครั้ง

 

3333

“ในช่วงการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยมุ่งเน้นนำเสนอนโยบายประชานิยมให้กับประชาชน แต่นโยบายประชานิยมก็ไม่สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ และการกลับมาของพรรคเพื่อไทย ยังเกาะนโยบายประชานิยมอยู่ แต่นโยบายแจกเงินดิจิทัล ไม่ใช่เพียงความเสี่ยงของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว แต่เป็นความเสี่ยงเป็นการเดิมพันของการคลังของประเทศไทยด้วย” รศ.ดร.ฐิติวุฒิ ตั้งข้อสังเกต

 

 

ต้องกระจายรายได้ในชุมชน

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในทุกวันนี้ ตนขอแยกออกเป็นสองส่วนในส่วนแรกหากจะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นตรงนี้ตนเห็นด้วย แต่จะต้องนำเม็ดเงินตรงนี้ลงไปถึงระดับล่าง ต้องให้เงินลงไปถึงร้านค้าที่อยู่ในชุมชนหรือ SME ขนาดเล็ก เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบ เพราะหากนโยบายนี้ออกมาแล้วประชาชนนำเงินไปใช้จ่ายในร้านค้าหรือธุรกิจที่อยู่อันดับต้น ๆมันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร เมื่อทำการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นแล้วรัฐบาลจะต้องมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย ในส่วนที่สองคือการใช้จ่ายของประชาชนเมื่อได้รับเงิน 10,000 บาทมา รัฐบาลต้องมีแนวทางในการกำหนดการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทอย่างชัดเจนเพื่อให้เงินจำนวนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวผู้ใช้และประเทศ ต้องมีมาตรการรองรับออกมาให้เงินเหล่านี้เข้าสู่ระบบอย่างแท้จริง

 

 

สภาพเศรษฐกิจในประเทศไทยในระดับล่างในตอนนี้ ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ยังไม่มั่นคงโดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กหรือ SME ขนาดเล็ก ดังนั้นจึงอยากให้เงินจำนวนนี้เข้าไปสนับสนุนคนกลุ่มนี้มากกว่า ดีกว่าที่จะนำเงินไปซื้อสินค้าในบริษัทใหญ่ ๆ สำหรับการที่มีผู้ที่ออกมาคัดค้านนโยบายตรงนี้มองว่าอาจจะมองว่านโยบายตรงนี้เป็นนโยบายประชานิยมและอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเงินการคลังในอนาคต และเงินที่นำมาแจกให้กับประชาชนก็คือเงินของ ภาษี ประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายหารือรวมถึงวางแผนในระยะยาวที่จะหาเงินเข้าประเทศ ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

 

โดย จักรินทร์ นมนาน ศูนย์เหนือ จังหวัดเชียงใหม่

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ