ข่าว

 ทุ่มพันล้านโครงการ"บสย.รักพี่วิน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ทุ่มพันล้านโครงการ"บสย.รักพี่วิน" ตอบโจทย์"เติมทุน"กลุ่มอาชีพอิสระ  

 

                 คิกออฟโครงการแรกแห่งปี ภายใต้ชื่อ “บสย.รักพี่วิน" สำหรับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งได้ฤกษ์เปิดโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ใต้สะพานลอยแยกเอกมัย) ถือเป็นโครงการใหญ่ประจำปี 2562 ที่ บสย.จัดขึ้นเพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพอิสระ โดยกลุ่มแรก คือ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนหรือสินเชื่อได้ โดย บสย.จะช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ หวังตอบโจทย์ “เติมทุน” ให้แก่กลุ่มอาชีพอิสระ ซื้อรถใหม่ ซ่อมรถ กู้ฉุกเฉิน ปลดหนี้นอกระบบ ชูกลไกรัฐ “ค้ำประกันสินเชื่อ" 

 ทุ่มพันล้านโครงการ"บสย.รักพี่วิน"

 

            สุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการ “บสย.รักพี่วิน” พร้อมให้การช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระ พี่วิน หรือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ ให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยมี บสย.หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง “ค้ำประกันสินเชื่อ” มั่นใจว่าเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ทางตรงกับกลุ่มพี่วิน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศกว่า 2 แสนราย

            “โครงการ บสย.รักพี่วิน เป็นโครงการที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน “เติมทุน” ให้ผู้ประกอบการ มั่นใจว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 4,580 ล้านบาท และช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ 100 ล้านบาท จากการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการ พี่วิน 1 หมื่นราย”

             ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวเสริมว่า โครงการนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งภาครัฐมีนโยบายอย่างต่อเนื่องในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากระบบสถาบันการเงินได้มากขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. เพื่อช่วยให้กลุ่มอาชีพอิสระ ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีการเดินบัญชี ทำให้ธนาคารไม่สามารถพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ได้

              สำหรับโครงการนี้จะเริ่มจากกลุ่มพี่วิน โดยการช่วย “เติมทุน” ผ่านธนาคารพันธมิตร ซึ่งในวันนี้ได้มาร่วมเปิดบูธให้คำปรึกษาภายในงานจำนวน 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) รวมถึงองค์กรพันธมิตรอื่นๆ ได้แก่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ให้บริการตรวจเครดิตบูโร ฟรี, กรมการขนส่งทางบก, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และสำนักงานประกันสังคม

            โครงการ “บสย.รักพี่วิน” ตั้งเป้าสนับสนุนค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ 1 หมื่นราย เฉลี่ยรายละ 1 แสนบาท แบ่งเป็น 1.กู้ซื้อรถใหม่ อนุมัติไม่เกิน 1 แสนบาท 2.กู้ซ่อมแซมรถ กู้ฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ อนุมัติวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 4,580 ล้านบาท และช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ 100 ล้านบาท (จากผลการสำรวจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าผู้ขับขี่มีการกู้เงินนอกระบบ 10%)

 ทุ่มพันล้านโครงการ"บสย.รักพี่วิน"

             “โครงการนี้จะช่วยให้ พี่วินประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการจะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 28% ต่อปี เช่น ถ้ากู้เงินจำนวน 5 หมื่นบาท ผ่อน 4 ปี เพื่อซื้อมอเตอร์ไซค์จากร้านค้าทั่วไป ต้องผ่อนเดือนละ 2,500 บาท หากกู้ผ่านโครงการรักพี่วิน จะผ่อนเดือนละ 1,500 บาท สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท หรือประหยัดได้มากกว่า 4 หมื่นบาท ในระยะเวลาการผ่อน 4 ปี”

             ดร.รักษ์ กล่าวด้วยว่าโครงการ บสย.รักพี่วิน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มพี่วิน หลังจาก บสย.ได้ระดมทีมงานลงพื้นที่พบพี่วินทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ จึงมั่นใจว่าจะเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง หลังจากนี้ บสย.ยังได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากที่สุด

            สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนกับ กรมการขนส่งทางบก โดยมีบัตรประจำตัวประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ (บัตรเหลือง) และมีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 5 ล้านบาท โดย บสย. ได้เปิดช่องทางการสื่อสารหลากหลายสำหรับพี่วิน นอกเหนือจากสำนักงานเขต บสย. 11 แห่งทั่วประเทศ Call Center 0-2890-9999 และเฟซบุ๊ก บสย. ยังได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่าน Line @tcgloveswin เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น

            สุรีรัตน์ น้อยอ่อนโพธิ์ หรือโอ๋ อาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มาร่วมงาน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานมาค้ำประกันให้ ที่ผ่านมาเคยไปทำเรื่องขอกู้สินเชื่อธนาคารมาแล้ว แต่ไม่ผ่านเพราะไม่มีคนค้ำประกันให้ ทั้งๆ ที่มีเอกสารครบถ้วน เนื่องจากธนาคารมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือพนักงานบริษัทเอกชนที่มีเงินเดือนประจำจะต้องเป็นคนค้ำให้ถึงจะผ่าน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะไปหาใครที่ไหน เพราะไม่รู้จักใครหรืออาจจะรู้จัก แต่ก็ไม่กล้าไปรบกวนหรืออาจมีเพื่อนหรือพี่ในวินด้วยกัน แต่อาจจะลำบากใจในการไปค้ำประกันให้เช่นกัน

 ทุ่มพันล้านโครงการ"บสย.รักพี่วิน"

             “ที่ผ่านมาได้ไปยื่นขอกู้แบงก์หลายครั้งก็ไม่ผ่าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยถอดใจดีกว่า ทั้งที่คุณสมบัติ เอกสารทุกอย่างผ่านหมด ยกเว้นคนค้ำประกันเราไม่มี การที่ บสย.มาเป็นคนค้ำให้ในครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจมากๆ เลยค่ะ” สุรีรัตนฺ์กล่าวด้วยความตื้นตันใจ

              เช่นเดียวกับ สุดใจ หอมสมบัติ มอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกรายที่มาใช้บริการสินเชื่อในวันนี้บอกว่าการซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านมามีปัญหา เนื่องจากต้องหาเงินดาวน์และหาคนไปค้ำประกัน ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์บางร้านเอาคนนามสกุลเดียวมาค้ำก็ไม่ได้ ต้องคนละนามสกุล หรือบางครั้งก็ต้องใช้เวลาผ่อนนาน 30 เดือน ถ้ามีคนมาช่วยอย่างนี้ก็จะผ่อนเบาลงแล้วก็ไปกู้ธนาคารก็ไม่ยาก เนื่องจากมีคนค้ำประกันให้แล้ว

             อย่างไรก็ตาม นอกจากโครงการ “บสย.รักพี่วิน” แล้ว ที่ผ่านมา บสย.ยังได้ร่วมมือกับ SME Development Bank ภายใต้โครงการ “ฮัก TAXI” เพื่อผู้ประกอบอาชีพจะได้รับการพัฒนาการประกอบอาชีพแท็กซี่ ควบคู่กับเข้าถึงแหล่งเงินทุน เงื่อนไขผ่อนปรน ผ่อนถูกกว่าจ่ายค่าเช่ารถ ผู้กู้สามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้ ให้สิทธิ์ 1 คนต่อการกู้ซื้อรถได้ 1 คัน โดยใช้ บสย.ค้ำประกันได้ มีวงเงินรวมทั้งโครงการ 1 หมื่นล้านบาท  

 

กว่าจะมาเป็นโครงการ “บสย. รักพี่วิน”

             ผู้ประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือ “พี่วิน” เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมและระบบเศรษฐกิจ ทำให้ชาวกรุงเทพมหานครถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ตรงเวลา ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการได้รับเอกสาร พัสดุต่างๆ อย่างรวดเร็วทันเวลา ลดปัญหาจราจร “พี่วิน” จึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

              จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ลงทะเบียนประมาณ 2 แสนราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ ประมาณ 1 แสนราย และภูมิภาค 1 แสนราย จากการสำรวจพบว่า พี่วินมีรายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 800 บาท คิดเป็นเงินรายได้ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจปีละกว่า 38,000 ล้านบาท อาชีพพี่วินถือว่าเป็นเอสเอ็มอีด้วยเช่นกัน ดังนั้น พี่วินจำนวน 2 แสนราย จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจของ บสย. ที่มุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือ จากจำนวนเอสเอ็มอีทั้งประเทศที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย

              จากผลการสำรวจพบว่า พี่วินมีรายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 800 บาท ค่าใช้จ่ายวันละ 500 บาท จะมีเงินออมวันละ 300 บาท ซึ่งเพียงพอในการขอเงินกู้ แต่รายได้อาจไม่แน่นอน และขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน เมื่อมีกรณีฉุกเฉินต้องใช้เงินเร่งด่วน บางรายจึงหันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยถึง 20% ต่อวัน จึงเป็นเหตุผลและที่มาของโครงการ “บสย. รักพี่วิน”

             หัวใจสำคัญคือ “เติมทุน เติมความรู้ เติมคุณภาพชีวิต” ซึ่งจะสร้างให้เกิด “สังคมสีขาว” 

             รูปแบบโครงการ “บสย. รักพี่วิน” เป็นการช่วยเหลือด้านเงินทุนให้แก่พี่วิน โดย บสย. ร่วมกับธนาคารพันธมิตรปล่อยเงินกู้ โดยมี บสย.ค้ำประกัน ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ “MICRO3” ซึ่งมีอัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันอยู่ที่ 1-2% ต่อปี โดย “ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก” ความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยให้พี่วินเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมีหลักประกัน โดยธนาคารที่ร่วมปล่อยสินเชื่อโครงการ “บสย. รักพี่วิน ตอนนี้มี 5 ธนาคารที่เป็นพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารทิสโก้, ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว. และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมโครงการ 

                 ปัจจุบันธนาคารที่พร้อมพิจารณาสินเชื่อสำหรับอาชีพกลุ่มนี้ได้เลยคือ ธนาคารออมสิน ซึ่งปัจจุบันมีโปรดักท์สินเชื่อที่ปล่อยกลุ่มพี่วินอยู่ 2 ตัวคือ สินเชื่อประชาชนสุขใจ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับโครงการสินเชื่อประชาชนสุขใจ ธนาคารคิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน และถ้ากู้ผ่านโครงการฝึกอบรมอาชีพผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะคิดดอกเบี้ยต่ำเพียง 0.75% ต่อเดือน ส่วนธนาคารอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการในการออกสินเชื่อเพื่อมารองรับ คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเห็นความชัดเจน 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ