ข่าว

สสว. เปิดโอกาสให้  SME ไทย ขยายเวทีการค้าสู่ตลาดโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สสว. เปิดโอกาสให้  SME ไทย ขยายเวทีการค้าสู่ตลาดโลก

 

              สสว. จับมือสถาบันอาหาร และ ISMED ดันธุรกิจ SME ไทย ก้าวสู่เวทีโลก ติดปีกธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางของไทยบินสูง ด้วยการขยายตลาดใหม่และรุกตลาดเก่า ภายใต้โครงการพัฒนาช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SME ปี 2562 คัดเลือกผู้ประกอบการ 192 กิจการ เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศต่าง ๆ รวม 8 งาน

สสว. เปิดโอกาสให้  SME ไทย ขยายเวทีการค้าสู่ตลาดโลก

 

           นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึง แนวทางในการผลักดันผู้ประกอบการ SME ให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบตลาด และสนับสนุนการขยายฐานทางเศรษฐกิจว่า ในปีนี้ สสว. ร่วมมือกับสถาบันอาหาร และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ดำเนินกิจกรรมภายใต้ “โครงการพัฒนาช่องทางการตลาด สำหรับผู้ประกอบการ SME” โดยเน้นสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์ของใช้ ของตกแต่ง ของขวัญและของที่ระลึก ในการพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

สสว. เปิดโอกาสให้  SME ไทย ขยายเวทีการค้าสู่ตลาดโลก

          โดย สสว. สถาบันอาหาร และ ISMED จะร่วมกันจัดอบรมสัมมนาความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ  เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ และจัดกิจกรรมขยายช่องทางการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ จะคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 8 งาน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนสิงหาคม 2562 ได้แก่

             1.งาน Ambiente Frankfurt ณ ประเทศเยอรมนี งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติอันดับหนึ่งของโลกที่แสดงสินค้าเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น สินค้าในครัวเรือน ของตกแต่งบ้าน ของขวัญ อัญมณี สินค้าแฟชั่น 2.งาน Thai fair 2018 ณ นคร ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นงานกลางแจ้งที่รวมผู้ประกอบการอาหาร และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สปา  3.งาน Malaysia International Halal Showcase ณ ประเทศมาเลเซีย งานแสดงสินค้าอาหารฮาลาลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นการเปิดประตูสู่โลกมุสลิมที่มีประชากรจำนวนนับล้านล้านคน

              4.งาน HKTDC Hong Kong Gifts and Premium Fair 2019 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง งานแสดงสินค้าของขวัญและของที่ระลึกใหญ่สุดในโลก มีผู้ประกอบการและผู้ขายเข้าร่วมออกบูธจำนวนมาก  5.งาน Ambiente India ณ กรุงนิวเดลลี ประเทศอินเดีย งานแสดงสินค้าระดับสากล จัดโดย Messe Frankfurt  แสดงสินค้าเกี่ยวกับของตกแต่งบ้าน สินค้าสำหรับใช้ในโรงแรม ของขวัญ และของชำร่วย 6.งาน Thai SME Festival Japan ณ ประเทศญี่ปุ่น (เมืองนางาซากิ และ เมืองฟุกุอิ) งานกลางแจ้งที่รวมผู้ประกอบการอาหารที่น่าสนใจ เปิดให้ SME ไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มให้ความสนใจในอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น

              7.งาน Food Taipei 2019 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) งานเทศกาลที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์อาหารทุกชนิด และกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น และ 8.งาน HKTDC Food EXPO 2019 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เป็นงานแสดงที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการสาขาเกษตรและอาหารจากทั่วมุมโลก มาร่วมกันจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 2561 สสว. ได้นำผู้ประกอบการไปร่วมงานแสดง สินค้าระดับนานาชาติและทดสอบตลาดในต่างประเทศ โดยเน้นสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สปา และสินค้าของขวัญของชำร่วย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพสูงของ SME ไทย มีผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 118 กิจการ เกิดการเจรจาธุรกิจถึง 1,400 คู่ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 1,500 ล้านบาท

         

        สำหรับแผนส่งเสริม SME ฉบับที่ 4 (ปี 2560-2564) หรือ SME 4.0 มีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน เน้นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนาเป็นผู้ส่งออก สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลไกระบบการช่วยเหลือเงินสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้ดำเนินการอย่างมีระบบ เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อผู้ประกอบการ SME และเศรษฐกิจของประเทศ สร้างองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการค้าและการตลาดในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการ SME สามารถกำหนดกลยุทธ์ต่างๆ สำหรับตลาดเป้าหมาย และให้ผู้ประกอบการ SME สร้างพันธมิตรและขยายความสัมพันธ์กับเครือข่ายทางการค้าในกลุ่มตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพได้อย่างเข้มแข็งอีกด้วย

                   “ในปี 2562 สสว.  มุ่งหวังที่จะขยายมูลค่าการซื้อขาย และเพิ่มยอดจากการเจรจาธุรกิจ รวมทั้งมูลค่าการสั่งซื้อจากการออกงานต่างๆ ตลอดทั้งโครงการ ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท และเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจอีกไม่น้อยกว่า 2,400 คู่ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME ได้รับความรู้ด้านการตลาดต่างประเทศอีกไม่น้อยกว่า 2,100 ราย นับเป็นปีของการผลักดันผู้ประกอบการ SME ให้เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันบนเวทีการค้าระดับสากลอย่างแท้จริง เป็นการต่อยอดการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต”  นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กล่าวในที่สุด

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ