บอร์ดสศช.ไฟเขียว ลงทุนรถไฟ‘ไทย–จีน’ชงครมใน2สัปดาห์

 

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เปิดเผยว่าในการประชุมบอร์ดสศช.นัดพิเศษ มีนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยาเป็นประธานเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาวงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท

ทั้งนี้คณะกรรมการมีความเห็นร่วมกันว่าหากไม่ผ่านโครงการนี้ให้มีการลงทุนจะเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญที่เชื่อมโยงกับประเทศจีนและเส้นทางสายไหมใหม่ (One belt one road) หากประเทศไทยไม่ตัดสินใจในการลงทุนประเทศจีนอาจตัดสินใจไปลงทุนและเปลี่ยนเส้นทางไปผ่านประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศเวียดนามซึ่งถือเป็นการเสียโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเสียโอกาสที่ประเทศไทยจะใช้โครงการนี้ในการจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้นในอนาคต

คณะกรรมการมีความเป็นห่วงในการทำความเข้าใจกับประชาชน จึงเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งดำเนินการชี้แจงความจำเป็นของโครงการในภาพรวมและไม่ได้ชี้แจงเฉพาะโครงการระยะสั้นที่มีการอนุมัติในช่วง กทม.-นครราชสีมา แต่ต้องอธิบายให้เห็นถึงการเชื่อมโยงเส้นทางกับภูมิภาคซึ่งเป็นประโยชน์กับประเทศในระยะยาว

สำหรับเรื่องของการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงจากประเทศจีน คณะกรรมการมีความเห็นว่ารัฐบาลควรที่จะมีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมารับถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวจากจีนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด

“บอร์ดมีความเห็นตรงกันว่าโครงการนี้ไม่ควรพิจารณาเฉพาะเรื่องของผลตอบแทนของโครงการเท่านั้น แต่ให้มองในภาพรวมของการพัฒนาประเทศ สิ่งที่รัฐบาลรวมทั้งเลขาฯสภาพัฒน์เองควรดำเนินการเร่งด่วนคือการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงโอกาสและประโยชน์ของโครงการที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุน ซึ่งต้องอธิบายให้เห็นในภาพรวม ว่าโครงการนี้จะไปเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในภูมิภาคอย่างไร”แหล่งข่าวกล่าว

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่ามติและความเห็นของบอร์ด สศช.จะส่งให้กับสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สคร.) ในสัปดาห์หน้าเพื่อบรรจุเป็นวาระการประชุม ครม.พร้อมกับการเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาภายใน 2 สัปดาห์

การประชุมฯในครั้งนี้คณะกรรมการได้สอบถามถึงประเด็นการลงทุนในโครงการนี้อย่างละเอียดตามหลักเกณฑ์ที่ สศช.ใช้พิจารณาความเหมาะสมของการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้งได้สอบถามเพิ่มเติมถึงประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเช่นขั้นตอนในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ผลตอบแทนทางการเงิน รวมถึงเทคนิคการก่อสร้างอย่างครบถ้วนทุกประเด็น ซึ่งหลังจากผ่านการพิจารณาของ ครม.แล้วจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดและความเห็นที่หน่วยงานมีต่อโครงการนี้ได้ครบถ้วนทุกขั้นตอน

“โครงการนี้เป็นรถไฟความเร็วสูงความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและความเร็วเฉลี่ยที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ผ่านมาโครงการนี้มีคำถามมาก แต่อาจยังไม่สามารถชี้แจงได้เต็มที่เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการต่อรองโครงการ แต่หลังจากโครงการ ผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว ประชาชนก็จะได้รับการชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด โดยอยู่บนหลักการของความโปร่งใสในการดำเนินการทุกขั้นตอน”นายปรเมธีกล่าว