'นายอำเภอ' เล่าเหตุ ปะทะคารม 'ตำรวจ' ขณะที่ 'ผู้ว่าฯศรีสะเกษ' สั่งสอบ

วันที่ 12 เม.ย.2567 จากกรณี คลิป ภาพชายสวมเสื้อลายแขนยาว อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูง กระทรวงมหาดไทย โต้เถียงกับตำรวจ สภ.เมือง อำนาจเจริญ และตำรวจทางหลวง ที่ ด่านตรวจ ในเขตพื้นที่ อ.เมือง อำนาจเจริญ ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์

ล่าสุด นายสฤษดิ์  ชายที่ปรากฏในคลิป เป็น นายอำเภอ แห่งหนึ่ง ใน จ. ศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพัก ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2567 เวลา 17.00 น. ยอมรับว่าเป็นผู้ชายที่โต้เถียงกับ ตำรวจ ชุดประจำ ด่านตรวจ จริง แต่ไม่ใช่คู่กรณี ของคดีนี้ คนที่ถูกเรียกตรวจคือลูกน้อง ขณะเกิดเหตุขับรถคนละคันและถูกตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ส่วนบทสนทนาที่เกิดขึ้นยอมรับว่าคำบางคำ มีการพูดกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่พูดด้วยความสัตย์จริง คือ ต้องการให้มีการปรับ หรือ การตักเตือนก่อนได้ไหม ก่อนที่จะทำคดีตามขั้นตอนต่อไป แต่ไม่คิดว่าจะมี คลิป ในขณะที่มีการสนทนาหลุดออกไปทางโชเชียลมีเดีย

ย้ำอีกครั้งว่า ตนไม่ได้ขับรถขณะมึนเมา และไม่ใช่คู่กรณี

ทั้งนี้เมื่อเย็นวันที่ 11 เม.ย. 2567 ตนพร้อมลูกน้องไปร่วมงานบวช ของหลานชาย ที่ อ.เมือง จ. อำนาจเจริญ ระหว่างนั้นลูกน้องขับรถกระบะ ออกจากงานบวชมาก่อน พอมาถึง ด่านตรวจ ก็ถูกเรียก ตรวจ แอลกอฮอล์ ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกน้อง ให้เข้าไปช่วยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประจำ ด่านตรวจ ซึ่งเป็น ตำรวจ ทางหลวง และ สภ.เมือง อำนาจเจริญ

แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้มีการพูดขอร้องกัน จนมีการกระทบกระทั่งกันด้วยวาจา จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็มีการถ่าย คลิป กันไว้ จนไม่สามารถจับปรับกันที่ ด่านตรวจ ได้ตามขั้นตอนต้องดำเนินคดี ไปถึงศาลจังหวัด จึงจะสามารถประเมินค่าปรับได้

ตอนนั้นคิดว่าทุกอย่างน่าจะลงเอยด้วยดี เพราะทาง ตำรวจ ทางหลวง ได้ลงบันทึกจับกุมไว้แล้วและเตรียมยื่นส่งไปที่ศาลจังหวัด แต่ก็ไม่คิดว่าจะมี คลิป ขณะที่มีการสนทนากันหลุดออกมา

การพูดจาอาจมีกระทบกระทั่งกัน แต่ขอ  ยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ตอนนั้นในคลิปตนสะดุดกับฟุตบาท จึงเสียหลักจะล้ม หากเจ้าหน้าที่คิดว่าตนจะทำร้ายร่างกาย ทำไม ไม่มีการเข้าจับกุมในเวลานั้นเลย เพราะตนบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดขืนหรือต่อสู้กับใคร

ขณะที่ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ สั่งการให้ปลัดจังหวัด เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา หากใครผิดก็ลงโทษตามระเบียบ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย