กรมสอบสวนคดีพิเศษ 'ดีเอสไอ' เตรียมนำสำนวนคดี 'หมูเถื่อน' 2 คดี ส่ง ป.ป.ช. หลังพบหลักฐานมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง
26 มี.ค. 2567 ความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 59/2566 หรือ คดีหมูเถื่อน 161 ตู้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคดีจับกุม กล่าวว่า ในคดีดังกล่าว แบ่งเป็น 10 บริษัท ใน 3 บริษัทแรกได้ส่ง ป.ป.ช.ไปแล้ว ยังเหลืออีก 7 บริษัท ในจำนวนนี้พบว่ามี 2 บริษัทที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานภาพหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริงก็จะส่งให้ ป.ป.ช. ส่วนอีก 5 บริษัท จะส่งให้คดีอัยการคดีพิเศษต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้
ส่วนคดีพิเศษที่ 126/2566 หรือคดีหมูเถื่อน 2,388 ตู้ เนื่องจากเป็นตู้หมูที่นำเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ผ่านเข้ามาและออกไปหมดแล้ว ปัญหาของตู้นี้คือไม่มีของกลางที่จะตรวจสอบ จึงต้องตรวจสอบว่า ตู้ที่เข้ามาแล้วสำแดงเป็นอะไร
เบื้องต้นพบว่า พอลิเมอร์ และเป็นพวกปลา สิ่งที่จะยืนยันว่าคืออะไรที่แท้จริงได้ทำการประสานข้อมูลกับอัยการเพื่อที่จะขอความร่วมมือจากต่างประเทศ เพื่อดูใบส่งของ (Invoice) ใบตราส่งสินค้า หรือ Bill of Lading (B/L) ว่าสินค้าแท้จริงคืออะไร
ในส่วนนี้จะเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่จะดำเนินการกับผู้ที่นำเข้า ซึ่งกลุ่มผู้นำเข้าก็เป็นบริษัทที่ดีเอสไอเคยดำเนินคดีมาก่อน จำนวน 9 บริษัท โดยมีพฤติกรรมสั่งเข้ามาในปี 2565-2566 และยังมีอีกประมาณ 2 บริษัทที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก แต่ถึงแม้ 9 บริษัทจะเคยถูกดำเนินคดีมาก่อนแล้ว แต่กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทได้
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังสั่งตรวจสอบกลุ่มลักลอบนำเข้าสั่งซื้อสินค้าแช่แข็งเข้ามาในไทยและอ้างว่าเป็นเนื้อปลาแช่แข็ง พบว่า 15 บริษัท ที่อยู่ต่างประเทศ เป็นอเมริกาใต้ 2 ประเทศและในยุโรป 5 ประเทศ เช่น เยอรมัน เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ บราซิล อาร์เจนตินา ซึ่งจำหน่ายสินค้าการเกษตร เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา ที่ต้องผ่านตู้แช่แข็ง จึงต้องมาดูว่าข้อมูลที่ได้มีการประสานไปจะสอดคล้องกับที่กลุ่มผู้ต้องหาระบุหรือไม่ว่าได้สั่งซื้อสินค้าเนื้อปลาแช่แข็ง หากไม่มีความสอดคล้องกันก็ต้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง