ข่าว

ปริศนาคดีดัง ปมสังหาร ‘เศรษฐินีหัวหิน – เลขาฯ’ ที่ถูกปิดตาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปริศนาคดีดัง ยิงดับ ‘เศรษฐินีโรงหล่อพระหัวหิน –เลขาฯ’คนสนิท ปมสังหาร ที่ถูกปิดตาย เอาไว้ที่พวกเขาเพียงสองคน

จดหมายสั่งเสียฉบับที่1

เหตุสะเทือนขวัญ ฆาตกรรม คุณภัทร เศรษฐินีโรงหล่อพระหัวหิน วัย 64 ปี กับ เลขานุการคนสนิท คุณสุ อายุ 46 ปี โดยมีผู้มาพบศพทั้งคู่ ในห้องพัก ภายในร้านรับหล่อพระ จำหน่ายพระพุทธรูป เครื่องสังฆภัณฑ์ฯ  ใกล้กับโรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงสาย วันที่ 10 มี.ค.2567

 

ทั้ง 2 ศพ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่คาดว่าอาจเป็นกระบอกเดียวกัน แต่ช่วงเวลาการตายห่างกันประมาณ 2 วัน จากสภาพศพที่พบ เจ้าหน้าที่คาดว่า เศรษฐินีโรงหล่อพระ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 วัน เธอถูกยิงเข้าที่หน้าอก

 

ขณะที่ เลขาฯหญิง กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะ คาดว่าเสียชีวิต มาแล้วประมาณ 6 วัน ข้างตัวพบอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ตกอยู่

 

นอกจากนี้ ยังพบโกศ เพื่อเตรียมไว้ใส่เถ้าอัฐิ 2 ใบ วางอยู่ รวมทั้งพบ จดหมายสั่งเสีย เขียนด้วยลายมือ 2 ฉบับ

  • ฉบับแรก ระบุว่า “ 1/02/24 ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอามือมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่XXX ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก” ซึ่งฉบับนี้ คาดว่า เขียนเดือนผิด เพราะน่าจะเป็น 1/03/24
  • ฉบับที่สอง ข้อความว่า “ข้าพเจ้าได้ทำพินัยกรรม ตอนที่ข้าพเจ้ามีสติ ครบ 100% โดยให้ น.ส.XXX เป็นผู้จัดการมรดก แบ่งให้หลานๆ อายุต้อง 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ... บ้านหลังเล็กข้างหน้า ให้พี่XXX อยู่จนวันตายนะ สงสารหลาน ลงชื่อ XXX

 

หลังพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมคลี่คลายคดี

พยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุถูกตั้งต้นขึ้น

  • อาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ที่ตกอยู่ใกล้ศพ เป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงทั้ง 2 ศพหรือไม่ และเป็นอาวุธปืนของใคร
  • จดหมายสั่งเสียที่เขียนด้วยลายมือทั้ง 2 ฉบับ เป็นของใคร และใครเป็นคนเขียน จากข้อความ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเป็นลายมือของ เลขาฯหญิง
  • โกศ ที่พบ 2 ใบ สอดคล้องกับ ข้อความสั่งเสียในจดหมาย เข้าทำนองสำนึกผิด ก่อนปลิดชีวิตตัวเองตายตาม

 

การประมวลเรื่องราวเบื้องต้น จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ จดหมายสั่งเสีย โกศ และอาวุธปืน มีความเป็นไปได้ว่า เลขาฯหญิง ทำปืนลั่นใส่ เศรษฐินีโรงหล่อพระ ก่อนสำนึกผิด และตัดสินใจยิงตัวตายตาม

 

ชุดสืบสวน นำจดหมายให้เพื่อนของ เลขาฯเศรษฐินี ดู พวกเขาบอกว่า ลายมือในจดหมายใกล้เคียงกับลายมือของเลขาฯเศรษฐินี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ตรวจเปรียบเทียบยืนยันลายมือ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนต่อไป

ส่วน โกศ 2 ใบที่วางอยู่ เป็นสินค้าในร้านเครื่องสังฆภัณฑ์อยู่แล้ว จะต้องส่งตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือที่ โกศ ว่ามีลายมือใครปรากฏอยู่บ้าง

 

ส่วนอาวุธปืน กล็อก 9 มม. จะต้องส่งตรวจทะเบียน และผู้ครองครองต่อไป อย่างไรก็ดี เบื้องต้นชุดสืบสวนได้พูดคุยกับ พี่สาวของเลขาฯเศรษฐินี ทราบว่า น้องสาวของเธอเคยบอกว่า เคยซื้ออาวุธปืนเก็บไว้

 

ขณะที่จากการพูดคุยกับ ลูกชาย ของเศรษฐินีโรงหล่อพระบื้องต้นยังไม่พบว่า มีทรัพย์สินในบ้านพักหายไป แต่เขาติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน ด้วยความเป็นห่วงจึงขับรถมาหาที่หัวหิน แล้วก็ต้องมาพบกับเหตุการณ์สะเทือนใจ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

 

ขณะที่ ครอบครัวของ เลขาฯเศรษฐินี ได้ออกตามหาเลขาฯ คนนี้เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2567 เพราะปกติ เลขาฯเศรษฐินี จะมาทำงานกับ เศรษฐินี ทีละหลายๆวัน โดยล่าสุดจะบอกกับที่บ้านว่า “กลับบ้านใต้ 1 สัปดาห์” เป็นอันว่ารู้กันว่า ไปทำงานกับ เศรษฐินี จึงไม่มีใครตามหา

 

กระทั่งครบกำหนดกลับบ้านในวันที่ 10 มี.ค.2567 แต่ เลขาฯเศรษฐินี ไม่กลับบ้าน และติดต่อไม่ได้ คนในครอบครัวจึงออกตามหา กระทั่งมาพบกลายเป็นศพ กลายเป็นเรื่องเศร้าของครอบครัว

 

อย่างไรก็ดี ชุดสืบสวนพบ โพสต์ เฟซบุ๊กของ เลขาฯเศรษฐินี เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2567 โพสต์ข้อความปริศนา ตัดพ้อ คล้ายต้องการสื่อสารอะไรบางอย่าง เป็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล ระบุข้อความว่า “อะไรที่ไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ เมื่อถึงเวลา ก็ต้องตาย !!!!!” กับอิโมจิหัวใจสีดำ 3 ดวง  

 

นอกจากนี้ จากการพูดคุยกับ เพื่อนสาวของ เลขาฯเศรษฐินี มีข้อมูลว่า ผู้หญิงพอจะมองกันออกว่า เศรษฐินี กับเลขาฯ คนนี้ สนิทกันมาก

 

ทำให้ทิศทางการสืบสวนสอบสวน 80% พุ่งเป้ามาที่ เลขาฯเศรษฐินี นำปืนออกมา โชว์เล่น หรือ นำปืนออกมาข่มขู่ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แล้วทำปืนลั่นใส่ เศรษฐินี

 

หลังเกิดเหตุจึงสำนึกผิด เขียนจดหมายสั่งเสีย และลงมือยิงตัวตายตาม

 

ทำให้ ชนวนการตายของ เศรษฐินี กับ เลขาฯ ของเธอ ยังคงเป็นปริศนา ที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้ พร้อมกับร่างไร้ลมหายใจ ของเขาทั้งคู่

จดหมายสั่งเสียฉบับที่ 2

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ