ข่าว

'แชมป์' ฮีโร่กล้ามโตยอมไกล่เกลี่ย 'กะเทยฟิลิปปินส์' รับทำผิดพร้อมขอโทษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'แชมป์' หนุ่มกล้ามโต ช่วย 'กะเทยไทย' ยอมรับผิดทำร้าย 'กะเทยฟิลิปปินส์' พร้อมยอมไกล่เกลี่ยหากยอมจบเรื่อง ยืนยันทุกคนที่เข้ามาในไทย มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ควรมารุกล้ำ หรือดูถูกคนไทย

6 มี.ค. 2567 นายณัฐพร หรือ  แชมป์ อายุ 29 ปี หนุ่มฮีโร่กล้ามโต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี จับกุมตัวขณะเกิดเหตุชุลมุนจากการปะทะกันระหว่างกะเทยไทย กับ กะเทยฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา  เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนดูไลฟ์สดอยู่ที่บ้าน จนถึงช่วงประมาณ 01.00น. จึงตัดสินใจไปดูสถานการณ์จริงว่าเป็นอย่างไร  ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจที่จะลงมือหรือทำอะไร แต่พอเหตุการณ์ในสถานการณ์ตอนนั้นด้วยความที่ตัวเองดูคลิปที่คนไทยโดนทำร้าย โดนยั่วยุและโพสต์ดูถูกคนไทย ก็เลยรู้สึกว่าโกรธแค้นใจ จึงใส่ไปเต็มๆ

แชมป์ ฮีโร่กล้ามโตพร้อมไกล่เกลี่ย

 

 

สำหรับเหตุการณ์ของตน แบ่งเป็น 4 เหตุการณ์ โดย 2 เหตุการณ์คือเข้าไปช่วยกะเทยไทย ที่ปีนขึ้นไปแล้วตกลงมาที่พื้น ตนเองเข้าไปช่วยไว้ และมีกะเทยไทยที่ชื่อพิงค์ ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกะเทยฟิลิปปินส์ ถูกรุมตีตนเองก็ไปช่วยไว้ 

 

ส่วนเหตุการณ์ที่สาม คือตนเองได้พุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายกะเทยฟิลิปปินส์ ซึ่งตำรวจเห็นว่าไม่สามารถคุมตัวเองไว้ได้ เพราะแรงเยอะ จึงจับใส่กุญแจมือ เอาขึ้นรถไปก่อน หลังจากนั้นตำรวจก็นำกะเทยฟิลิปปินส์ ขึ้นมาบนรถ ตนเองก็ยังอารมณ์ค้าง ก็เลยทำร้ายร่างกายไปอีก 3 ครั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่กะเทยชาวไทยทุกคน

 

นายณัฐพร หรือ แชมป์ ยอมรับว่า สิ่งที่ตนเองทำผิด และให้กระบวนของกฏหมายได้ทำงาน หรือจะไกล่เกลี่ยก็ได้ แต่ต้องเป็นธรรม ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย หากเหมาะสม ก็พร้อมจ่าย และพร้อมไกล่เกลี่ย เข้าใจว่าทางกะเทยฟิลิปปินส์ก็ไม่อยากให้เป็นคดีความกันต่อไป

 

ส่วนที่สังคมบอกกันว่า ตนคือฮีโร่ ยืนยัน ก็อึดอัดใจกับคำนี้เพราะตนเองไม่ใช่ฮีโร่ อยากให้ใช้คำว่าฮีโร่กับคนไทยที่เข้าไปช่วยกัน และเหล่า LGBTQ+ ของไทยทุกๆคน จะเหมาะสมกว่า สุดท้ายนี้อยากฝากบอกกับกะเทยฟิลิปปินส์ อยากได้คำขอโทษ ทุกคนที่เข้ามาในไทย มีสิทธิเท่าเทียมกัน และไม่ควรมาลรุกล้ำ หรือดูถูกคนไทย
 

นายณัฐพร ยังบอกอีกว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือ คำขอโทษ เรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นของทางคดี ส่วนของตนอันไหนที่ตนผิดก็ขอโทษได้ แต่ตอนนี้คนไทยทุกคนก็รอคำขอโทษจากทางฟิลิปปินส์เหมือนกัน อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ตัวอย่างเพราะคิดว่าคงเป็นเหตุการณ์ใหญ่พอสมควรที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนไทยและฟิลิปปินส์สั่นคลอนได้ ซึ่งการเข้ามาในประเทศไทยทุกคนมีสิทธิ์เสรีภาพเท่าเทียมกัน สังคมไทยเป็นสังคมวัฒนธรรมสุดท้ายแล้วเราอยู่ร่วมกัน ก็ควรเคารพความแตกต่าง ยอมรับกัน ซึ่งถ้าเขาเข้ามาก็ควรจะเคารพสิทธิ์ของคนไทยไม่ควรที่จะมาก้าวล้ำทำลายศักดิ์ศรีของคนไทยขนาดนี้

 

ขณะที่ "วุ้นเส้น"  1 ในกะเทยไทย คนที่ห้ามปรามเหตุการณ์ในวันนั้น เปิดเผยว่า วันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามขอพื้นที่ แต่กะเทยไทยมากันจำนวนมาก ทำให้ตนเป็นคนกลางเข้าไปบอก ส่วนที่ขณะพูดมีการขยิบตา คนตีตวามไปเอง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม และตำรวจต้องการได้พื้นที่ตรงนั้น เราเข้าใจทั้งตำรวจและกะเทยไทย ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จนได้หารือกับทางตำรวจไปก่อนแล้วว่า จำนวนคนยังไม่เยอะ ยังสามารถควบคุม หากจะย้ายคนฟิลิปปินส์ต้องย้ายทันที แต่ต่อมาก็คุมสถานการณ์ไม่ได้จริงๆ

 

 

วุ้นเส้น ยืนยันไม่มีการขยิบตา คนไปตีความกันเอง

 

 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ขณะนี้ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์ได้เพียง 3 คน แต่เท่าที่ดูในคลิปนั้นมีมากกว่า 10 คน  ตนยังไม่พอใจกับการไกล่เกลี่ยกับคนฟิลิปปินส์ 3 คน ยืนยันว่าตนจำหน้าของผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด เพียงไม่รู้ว่าตอนนี้มีการกระจายไปอยู่ในพื้นที่ไหนบ้าง เพราะกลุ่มนั้นได้ออกจากที่พักหลังจากเกิดเหตุ ในวันที่ 4 มี.ค. ตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนการไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหายยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน อยากให้ตำรวจตามตัวผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์ที่อยู่ในคลิปมาให้ได้ 

 

วุ้นเส้น ยังบอกอีกว่า ตนไม่ได้อคติกับคนฟิลิปปินส์ เพียงแต่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นรายบุคคล ตนมองว่าเรื่องแบบนี้คุยกันได้ ถ้าฝั่งสาวสองชาวฟิลิปปินส์พูดขอโทษ ก็ให้ถามไปยังคนไทยว่าให้อภัยไหม ถ้าทุกคนให้อภัยเรื่องก็จบ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ