ส่งตัวมาจาก ‘เขมร’ ถึงไทยแล้ว แฟนสาวทีม ‘ฆ่าไต้หวัน’

วันที่ 27 ก.พ.2567 เวลา 16.15 น. ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวนของสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คุมตัว น.ส.ปียานุช อายุ 22 ปี หรือตาล ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนและร่วมกันปิดบังอำพรางซ้อนเร้นศพ และหลบหนีออกนอกประเทศไป พร้อมกับผู้ต้องหาชาว ไต้หวัน อีก 4 คน ในคดี ฆ่าไต้หวัน ทิ้งศพ ริมถนนสุวรรณภูมิ

ต่อมาตำรวจไทยประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับผู้ต้องหาข้ามชาติไปยังตำรวจกัมพูชา จนสามารถตามจับกุม น.ส.ปียานุช ได้แถวบ่อนฝั่งปอยเปต ติดกับชายแดนไทยกัมพูชา ก่อนจะคุมตัวส่งให้ทางตำรวจไทยสอบสวนขยายผลที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

น.ส.ปียานุช กล่าวว่า ไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชาว ไตัหวัน คืนวันเกิดเหตุนอนพักอยู่บนชั้น 3 เป็นทาวน์เฮาส์ ซอยลาดปลาเค้า และเป็นจุดสังหาร ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในบ้าน แต่ไม่กล้าลงมาดู หลังเกิดเหตุ ไม่ทราบว่า เขาเอาศพไปทิ้งไหน กระทั่งนายหวัง คง เต่ง หรือเติ้ล อายุ 42 ปี ชาว ไต้หวัน หนึ่งในผู้ต้องหา ที่กำลังหลบหนี บอกให้เก็บเสื้อผ้า เพื่อหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงทราบว่าน่าจะเกิดเรื่องแล้ว จังหวะนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไง ด้วยความกลัวจึงเดินทางตามไปด้วย

ส่วนประเด็นการก่อเหตุนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว น่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจ แต่เป็นธุรกิจคอลเซ็นเตอร์หรืออะไรนั้น ไม่รู้ลึกเกี่ยวกับธุรกิจที่เขาทำอยู่ ยอมรับว่า แฟนเป็นคนขับรถคันสีแดงนำศพออกจากบ้านไป สอดคล้องกับภาพวงจรปิด ริมถนนพัฒนาชนบท3 ที่พบชายผู้ต้องหา 2 คนทิ้งรถเดินออกมาเรียกแท็กซี่กลับไปบ้านเกิดเหตุ

ส่วนอีกคนที่นั่งมาในรถ  นาย ริน ควร ยุ่น อายุ 26 ปี ชาว ไต้หวัน ชายเสื้อดำ ที่ปรากฏในร้านสะดวกซื้อ ลงไปซื้อน้ำยากำจัดกลิ่นและคราบ เป็นคนเดียวกับที่ขับรถเก๋งยาริสสีขาวมาจากพัทยาพร้อมกับผู้ตาย

สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือชาว ไต้หวัน อีก 4 คน ประกอบด้วย 1.นาย ริน ควร ยุ่น อายุ 26 ปี ยังหลบหนีในกรุงพนมเปญ 2.นาย โฉ ยู่ ฟาย อายุ 25 ปี หลบหนีจากกัมพูชากลับไปยังประเทศ ไต้หวัน แล้ว 3.นาย สู่ ฟง หยอน อายุ 33 ปี และ 4.นายหวัง คง เต่ง อายุ 42 ปี