ข่าว

เกิดอะไรขึ้น 'พ.ต.อ. ก้มกราบ พ.ต.ท.' หลังโดนลูกน้องร้องเรียน ให้เก็บส่วย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกิดอะไรขึ้น 'พ.ต.อ.' ก้มกราบ 'พ.ต.ท.' หลังโดนลูกน้องร้องเรียน กระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณี ให้เก็บส่วยให้ ล่าสุด โดนสั่งย้าย และตั้งกรรมการสอบแล้ว

23 ก.พ. 2567  เพจ  Police News Varieties ได้เผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ ตำรวจ ยศ พ.ต.อ. ก้มกราบ พ.ต.ท. ที่ห้องผู้กำกับการ สภ.เมืองนครนายก หลังมี คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน กรณี ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก ถูกกล่าวหา ว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและเกิดความผิดชัดแจ้งต่อผู้บังคับบัญชา 

 

 

ภาพจากเพจ Police News Varieties

 

 

โดยเนื้อหาในทางเพจได้ลงใน YouTube ระบุว่า “ พ.ต.อ.ก้มกราบ พ.ต.ท. หลังจิตหลุดโดนลูกน้องร้องเรียนให้เก็บส่วย ” มีรายงานว่าตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน กรณี ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก ผู้ถูกกล่าวหา มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงและเกิดความผิดชัดแจ้งต่อผู้บังคับบัญชา 
 

 

ภาพจากเพจ Police News Varieties

 

 

สืบเนื่องจาก ตำรวจยศ พ.ต.ต. และ ดาบตำรวจ  ข้าราชการตำรวจสังกัด กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก ร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาว่า พ.ต.อ. คนดังกล่าว มีพฤติการณ์บังคับ ข่มขู่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ไปเรียกรับผลประโยชน์กับประชาชน ต้องหาเงินมาให้

 

เมื่อ ผบก.ภ.จ.นครนายก เรียกให้ ตำรวจที่ร้องเรียน มาพบเพื่อสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ พ.ต.อ. คนดังกล่าวมาขัดขวางการสอบถาม  ผบก.จ.นครนายก จึงได้สั่งให้ พ.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา ออกไปจากสำนักงาน แต่ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอม ทั้งยืนเคาะประตู และพูดเรียกตลอด

 

ขณะที่ ผบก.ภ.จ.นครนายก กำลังสอบถามตำรวจที่ร้องเรียนอยู่นั้น  ได้ให้ตำรวจสายตรวจเชิญตัว พ.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา ออกไป หากไม่ออกไปจะดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายทันที

 

ขณะนั้น พ.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา ได้ก้มลงกราบ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ ซึ่งมาเยี่ยม  ผบก.ภ.จ.นครนายก  ทำให้เห็นว่ามีปัญหาการควบคุมอารมณ์และมีภาวะการเป็นผู้นำต่ำ ประกอบกับ มีพฤติการณ์ ข่มขู่  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก , ข่มขู่รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก และข่มขู่ข้าราชการตำรวจหลายนายที่อยู่ในบริเวณนั้น 

 

 

ทั้งนี้ เรื่องที่ พ.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา ถูกกล่าวหา และการกระทำต่อหน้าข้าราชการตำรวจหลายนาย เข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรงฐาน "ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้หรือเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย" ตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ มาตรา 112อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 117 และมาตรา 179 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อทำการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว

 

ล่าสุด พ.ต.อ.ยงยุทธ มาศิริ รอง ผบก.ภ.จ.นครนายก เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา โดยวันนั้น ผบก.ภ.จ.นครนายก ได้เรียนตำรวจกองกำกับการสืบจังหวัดนครนายก 3 นาย มาพบที่ห้องทำงาน เพื่อสอบถามเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำกับการสืบ ในระหว่างที่อยู่ในระหว่างที่ผบกกำลังสอบถามข้อมูลกับตำรวจทั้ง3นาย

 

แต่ พ.ต.อ.ที่ปรากฎในภาพก็พยายามที่จะเข้าขอพบ ผบก.เช่นกัน แต่ผบก. บอกว่ายังติดภารกิจยังไม่สามารถให้เข้าพบได้ ขอให้ออกไปก่อน แต่ พ.ต.อ.คนดังกล่าวก็ยืนเคาะกระจกประตูห้อง ทางผบก จึงสั่งให้ตำรวจเชิญตำรวจคนดังกล่าวออกจากสำนักงานไปก่อน เพราะเป็นการรบกวนผู้บังคับบัญชาที่จะทำการซักถามปากคำรายละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาให้ปากคำ 

 

ในระหว่าง พ.ต.อ.คนนั้นก็ยังไม่ยอมไปก็นั่งอยู่ในห้องสำนักงานอยู่นาน และเดินไปจ้องมองผ่านกระจกประตูห้องที่ ผบก.สอบปากคำตำรวจทั้งสามนาย จนตำรวจออกมาห้ามปรามและเป็นเหตากรณืตามคลิปที่ปรากฏ


เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผบก.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งทำการสืบสวนข้อเท็จจริง หลังจากได้ข้อมูลจากตำรวจทั้งสามนาย ขณะนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น 


ขณะที่ตำรวจภูธรภาค 2 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.คนนี้ไปประจำที่ สภ.ก ภาค 2 เพื่อความสะดวกในการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
 

 

 

บุญรวม สง่ารัตนพิมาน , ธนชัย สง่ารัตนพิมาน , กิจติภัฐร์ สง่ารัตนพิมาน นครนายก

ขอบคุณภาพ  เพจ  Police News Varieties

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ