'สรยุทธ' ยังโดน รวบ อดีตจนท.บ.ประกัน ลอบขายข้อมูลลูกค้า รายชื่อ 'คนดัง' เพียบ

ตำรวจไซเบอร์ เร่งกวาดล้าง 'มิจฉาชีพ' ขายข้อมูลลูกค้า พบมีรายชื่อ คนดัง เพียบ รวมทั้ง 'สรยุทธ' โดยล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท. 5 และกำลังชุดสืบสวนได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี พร้อมหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุม นายวีรทัศน์ (สงวนนามสกุล) ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านหรู ย่านสาทร-ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากที่่ ตำรวจ จับกุม โบรกเกอร์ ของ บริษัทประกันภัย ลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าประกันนับล้านรายชื่อไปขายให้กับ กลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าประกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลลูกค้าประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายวีรทัศน์ รับโอนเงินโดยทำการซื้อขายกันหลายครั้ง มีการซื้อข้อมูลลูกค้าประกันภัย จำนวน 2,000 รายชื่อ ในราคา 1,000 บาท จากการขายฐานข้อมูลลูกค้าประกันให้กับผู้ต้องหา 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นและหมายจับก่อนเข้าจับกุมได้ภายในหมู่บ้านดังกล่าว โดย นายวีรทัศน์ ยอมรับว่า หลังจากช่วง โควิด จึงคิดหาเงินทางลัด ที่มีรายได้ จากการขายข้อมูล เดือนละ 100,000 บาท โดยซื้อข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนใหญ่เป็นคนในวงการ ขายประกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัย ในตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ มีลูกทีมในสังกัดประมาณ 10 คน แต่ได้ลาออกมาประมาณ 3 ปี 

"มีการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอยู่ในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง และรับว่าเป็นคนโพสต์ขายฐานข้อมูลลูกค้าจริง เป็นการนำมาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อนจริง ผมได้ไปซื้อไฟล์ฐานข้อมูลลูกค้าซึ่งจะมีคนดังในหลายวงการ รวมถึง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าว และยังมีคนชื่อเสียงอีกหลายวงการ และนักธุรกิจ ซึ่งบางข้อมูลที่ได้มาจะมีทั้งที่ข้อมูลตรง และบางข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง"

ขณะที่ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารู้ตัวว่าต้องโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ เพราะมีเพื่อนในกลุ่มที่ซื้อขายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปบ้างแล้ว ได้มีการประกาศเตือนกันให้ระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ ทำให้ผู้ต้องหารายนี้ได้พยายาม หลบ ซ่อน พรางตัวเอง ไม่มีการใช้ยานพาหนะ หรืออยู่บ้านตัวเอง และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ รวมถึงปิดเบอร์โทรศัพท์เก่า ทั้งเฟซบุ๊ก และช่องทาง สื่อสาร ทุกอย่าง เพื่อป้องกัน ไม่ให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม เวลาจะเดินทางไปไหนจะใช้วิธีใส่หน้ากากอนามัย ใส่หมวกปิดบังพรางตัวเสมอ แต่สุดท้ายถูกตำรวจตามจับจนได้ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ นำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป