เปิดบทสนทนา เยาวชน 14 หลังก่อเหตุใน 'พารากอน' โทรแจ้ง 191 ก่อนยอมวางอาวุธ

เหตุการณ์ระทึกขวัญกลางห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3  ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุเพียง 14 ปี ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนที่มาเดินเที่ยวในห้าง จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ  ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวว่าเยาวชนที่ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์ ไปแจ้งตำรวจ 191 

 

พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (รอง ผบก.สปพ.) เปิดเผยว่า เยาวชนชาย ผู้ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์เข้าเบอร์ 191 จริง โดยขณะที่โทรแจ้งนั้น ได้มีการพูดคุยด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง กลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย หากไม่มีตำรวจมาหา จะทำร้ายตัวเอง  

 

 

 

 

 

โดยเวลาประมาณ 16.42 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุศูนย์วิทยุผ่านฟ้า หรือ 191 รับสายซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ปลายทางเป็นเสียงผู้ชายบอกแจ้งว่า "เป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนในห้างสยามพารากอน"

 

เจ้าหน้าที่ ที่รับสายจึงแจ้งให้หัวหน้างานพนักงานรับแจ้งเหตุทราบและเจรจากับผู้แจ้ง  และไปรายงานให้ ร.ต.อ.พศวัต จงจิตร รอง สว.ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ทราบ 

 

จากนั้น ร.ต.อ.พศวัต ร่วมฟังการสนทนา และให้เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุสอบถามรายละเอียดให้มากที่สุด พร้อมให้เจรจาและเกลี้ยกล่อม  เมื่อสอบถามไปยังผู้ก่อเหตุว่า ต้องการจะให้ช่วยอย่างไร อยากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นผู้ก่อเหตุมีลักษณะเหมือนอยู่ในอาการตกใจกังวล และมีแนวโน้มจะทำร้ายตัวเอง เพราะบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า  "ผมกำลังเอาอาวุธจ่อตัวเองอยู่" 

 

เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องพยายามเกลี้ยกล่อม บอกให้ใจเย็น ให้วางอาวุธ และยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง 

 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามพิกัดของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากขณะนั้น เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังไม่ทราบผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณใด ซึ่งผู้ก่อเหตุ ได้แจ้งว่า อยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอยู่บนชั้น 3 ของห้าง เจ้าหน้าที่ยังได้สอบถามถึงการแต่งกาย ผู้ก่อเหตุก็แจ้งว่าใส่เสื้อสีดำแขนยาว กางเกงลายทหารสีน้ำตาล สวมหมวกแก๊ป 

 

เมื่อได้ข้อมูลเช่นนั้น จึงรีบประสาน ยังศูนย์วิทยุนารายณ์  บก.น.6  โดยระหว่างนั้นก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุซึ่งมีน้ำเสียงตกใจ  พูดจาวกไปวนมา พอจับได้ว่า กลัวไม่ปลอดภัย  และเริ่มร้องไห้ พร้อมกับบอกว่า "ผมอายุแค่ 14 ปีเองนะครับ ผมจะติดคุกไหม ผมจะปลอดภัยไหม" 

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่บอกว่าให้ ใจเย็นๆ ให้วางอาวุธ  เพราะถ้าไม่วางอาวุธอาจจะได้รับอันตราย ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ฟัง ไม่ได้มีอาการขัดขืน  ซึ่งขณะที่ตำรวจสายตรวจที่ไปถึงบริเวณชั้น 3 หน้าร้านเฟอร์นิเจอร์  เจ้าหน้าที่ได้บอกให้ผู้ก่อเหตุ เดินออกไปหาเจ้าหน้าที่ แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าเดินออกไปไม่ไหว เพราะตัวชา เจ้าหน้าที่ จึงบอกให้ยกมือขึ้น วางอาวุธลง จนตำรวจในที่เกิดเหตุเข้าควบคุมตัว ซึ่งใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมกว่า 20 นาที