บิ๊กโจ๊ก ร้องศาล ขอความเป็นธรรม ออกหมายค้นบ้านพัก

จากกรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องเว็บไซต์พนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา ตามแผนปฏิบัติการระดมกำลังกวาดล้างเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ เข้าตรวจค้นรวม 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้ต้องหาร่วม 23 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จำนวน 8 นายนั้น

 

ล่าสุด ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ที่ศาลอาญา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอให้มีการไต่สวนการออกหมายค้นบ้านพักส่วนตัวที่เป็นธรรม และให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันว่า ตนไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันแต่อย่างใด ส่วนลูกน้องจะมีความเชื่อมโยงอย่างไรมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่จะต้องตอบคำถามต่อศาลให้ได้

กรณีออกหมายค้นเพื่อตามหาตัวพ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม พี่นนท์กำลังมาคนที่บ้านของตนนั้นก็ต้องทราบอยู่แล้วว่าพ.ต.ต.ชานนท์ ต้องอยู่ที่บ้านของตนแล้วจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าบ้านที่ออกหมายค้นนั้น เป็นบ้านของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าจะค้นบ้านของตน ศาลก็จะไม่ถึงขั้นออกหมายค้นแต่ก็จะให้ความเป็นธรรมก่อน ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้มีคดีความใดๆเกิดขึ้นการนำกำลังจำนวนมากพร้อมหมายค้นมาค้นบ้านพักของตนนั้นทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตนมองว่าเป็นการหลอกสารทำให้ศาลไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ตอนจึงได้เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนของความเป็นธรรมต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาการไต่สวน เนื่องจากเป็นการละเมิดอำนาจศาลในการออกหมายค้น

 

นอกจากนี้ก็จะมีการดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในกรณีการออกหมายจับตำรวจทั้ง 8 นายเนื่องจากมีการใช้คำว่านายแทนยศตำรวจซึ่งทำให้ศาลไม่รู้ว่าออกหมายจับใคร ซึ่งถือว่าเป็นการออกหมายจับโดยมิชอบ เพราะเนื่องจากตามปกติที่ตนทำคดีนั้นถ้าต้องมีการออกหมายจับบุคคลที่มียศมีตำแหน่งก็จะเป็นการเริ่มต้นจากการส่งหมายเรียกก่อนเนื่องจากเป็นข้าราชการ

ทั้งจะมีการยื่นเรื่องดำเนินการไปถึงศาลอาญาแผนกว่าดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เนื่องจากมีการแจ้งความเท็จให้ข้อมูลเท็จ

 

น้อมรับในการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบต้องเป็นธรรม แต่ถ้ามีวาระซ่อนเร้นผมก็ต้องใช้สิทธิ์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะถ้าขนาดผมที่เป็นถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ได้รับความเป็นธรรมและประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมมาจากไหน"

 

ในส่วนเงินจำนวน 2.8.ล้านบาท ที่มีการนำไปจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลของมารดานั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชี้แจงว่าจำนวนเงินทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าจ่ายทั้งหมดจำนวน 2.8ล้านบาท แต่เป็นค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลตลอดทั้งปี ซึ่งเมื่อถึงต้นเดือนต้นก็จะจัดการให้ลูกน้องนำเงินไปจ่ายรวมทั้งค่าน้ำไฟค่าเช่าบ้านและค่าโทรศัพท์ส่วนตัว

 

ส่วนกรณีเรื่องของบ้านพักนั้นยืนยันว่าเป็นบ้านพักของตนซึ่งได้มีการเช่าพักอาศัยกับญาติคนสนิทของตนเนื่องจากตนไม่ได้สร้างบ้านพักส่วนตัวในกรุงเทพฯเพราะตนเป็นคนจังหวัดสงขลา

 

ขณะที่กรณีมีภาพคลิปวีดีโอร่วมร้องเพลงกับเจ้าของเว็บพนันนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันภาพที่เห็นนั้นเป็นงานเลี้ยงลูกน้องซึ่งเป็นภายหลังการจัดงานศพของคุณแม่ซึ่งลูกน้องได้ไปช่วยกันหลายคนและเหนื่อยกันมากตนจึงได้จัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณแต่ส่วนที่ลูกน้องจะพาใครมาร่วมงานบ้างนั้นตนไม่ทราบและไม่ได้มีการรู้จักกับมินนี่เป็นการส่วนตัว

 

ส่วนเรื่องของบ้านพักนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อธิบายว่า เป็บ้านของตนที่ครอบครอง โดยเช่ากับญาติสนิทกันและได้รายงานต่อป.ป.ช.ไปแล้ว 

 

ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมานั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีที่มีการสอบสวนเกิดขึ้น