ข่าว

รวบ 'จิว ห้วยขวาง' แฝงตัวในคราบนักบุญ ลักทรัพย์สาวใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สืบนครบาล รวบ 'จิว ห้วยขวาง' แฝงตัวในคราบนักบุญ ตีสนิทคบหากับสาวใหญ่ วัย 58 แอบจดจำข้อมูลรหัสผ่านมือถือ-แอปพลิเคชั่นธนาคาร ก่อนแอบโอนเงินเหยื่อสาวใหญ่เกือบหมดตัว

 

17 ก.ย. 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าจับกุม นายกิตติธัช (ขอสงวนนามสกุล) หรือ องค์ หรือ จิว อายุ 33 ปี บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยภาวนา แขวงสามเสนนอก เขตห้วงขวาง กรุงเทพฯ

 

โดยแจ้งข้อหากล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน , เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน

 

พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับหญิงสาวผู้สูงวัย ในความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่างสาวม่ายกับหนุ่มหล่อสายแทคแคร์ มีเหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ในคราบ "แมง" โดยล่าสุดมีหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งวัย 58 ปี ได้เจอกับหนุ่มหล่อ อายุ 33 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงเรียงนามในแวดวงเหล่าเก้งกวาง ด้วยใบหน้าตามีออร่าเปล่งปลั่ง กริยาท่าทางยั่วยวนใจหญิงม่ายผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดี 

 

 

 

โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นแรกเริ่มนั้นน้ำต้มผักก็ว่าหวาน พากันเดินทางสายบุญ เข้าวัดเข้าวา แต่หารู้ไม่ว่าแมงรายนี้ได้วางแผนก่อเหตุไว้ โดยตลอดเวลาความสัมพันธ์นี้ เจ้าตัวแอบจดจำข้อมูลต่างๆของหญิงม่ายวัย 58 ปี นี้ไว้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ "รหัสผ่าน" ของโทรศัพท์และแอปพลิเคชั่นธนาคารของเธอ ก่อนจะค่อยๆหาโอกาสที่อยู่ด้วยกันลงมือแอบใช้โทรศัพท์ของเธอโอนเงินออกจากบัญชีครั้งละไม่มาก 

 

จับ จิว ห้วยขวาง ลักทรัพย์สาวใหญ่

 

 

 

โดยอาศัยความที่หญิงม่ายมีเงินในบัญชีจำนวนมากทำให้เธอแทบจะไม่รู้ตัวว่าแมง รายนี้ค่อยๆสูบเลือดเธออยู่ ล่าสุด เรื่องก็เริ่มแดงขึ้น เมื่อหญิงผู้เสียหายจับได้ว่าเจ้าตัวแอบโอนเงินออกจากบัญชีไปหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 5 หมื่นบาท ซึ่งเมื่อเหยื่อรู้ตัวแมงรายนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆไปในทันทีชนิดที่ว่าชาตินี้ไม่ต้องพบเจอกันอีก เธอได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งได้มีการออกหมายจับ นายกิตติธัชฯ 

 

 

 

จากการสอบสวนนายกิตติธัช ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองจบชั้นปริญญาตรี สาขาการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง หลังจบมาได้ทำงานเป็นพนักงานในธนาคารชื่อดัง หลังจากนั้นได้เป็นนักบัญชีในบริษัทเอกชนชื่อดัง ก่อนจะผันตัวเดินสายเป็น ฟลีแลนซ์ ทำงานจิปาถะทั่วไป กระทั่งได้มาพบกับหญิงม่ายผู้เสียหายในเส้นทางนักบุญ เข้าวัดเข้าวาทำกิจกรรมสายบุญ ติดสอยห้อยตามเป็นเวลาแรมปี จนถึงช่วงเกิดเหตุตนเองเกิดความโลภ เห็นว่าสาวม่ายที่ตนเองติดตามมีเงินหลายล้านบาท จึงแอบจดจำรหัสผ่านโทรศัพท์และลงมือแอบโอนเงิน แต่ไม่ได้โอนเป็นจำนวนมากโอนทีละเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตนยอมรับว่าเป็นต้นเหตุให้ความสัมพันธ์ทั้งสองได้จบลง กลายเป็นความบาดหมาง และตนพยายามหาเงินไปคืนแต่ก็ยังไม่มีคืนมาเป็นเวลานานแล้ว ยอมรับว่าตนเองผิดจริง และยืนยันว่าตนเองไม่ใช่ผู้ชายขายบริการหรือบาร์โฮสแต่อย่างใด

 

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา จากพฤติกรรมของเจ้าตัว ไม่มีงานทำเป็นกิจจาลักษณะ ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนลักษณะนี้ อาจมีหญิงสาวเคยตกเป็นเหยื่อเช่นนี้อีก จึงขอฝากถึงหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อลักษณะนี้แล้วไม่สามารถบอกใครได้ สามารถแจ้งมาที่เพจเฟซบุ๊ก สืบสวนนครบาล IDMB จะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการดำเนินการให้อย่างเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ