ข่าว

สรุปชัด ไทม์ไลน์ วงจรปิด มัด 'กำนันนก' สั่งยิง 'สารวัตรแบงค์' ใครบิดเบือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรุปไทม์ไลน์ชัดๆ นัดแรกก็ไปแล้ว 'กำนันนก' ปมสั่งตาย 'สารวัตรแบงค์' ตำรวจทางหลวง สะท้อนปัญหาเส้นสาย วงการตำรวจ

เซิร์ฟเวอร์ วงจรปิด ที่ถูกกู้ขึ้นมา เป็นหลักฐานสำคัญ มัดตัว “กำนันนก” และ บุคคลที่อยู่ในงานเลี้ยง หลายคนเฝ้ารอ การเปิดเผยข้อมูลทางคดี ที่จะเป็นตัวไขความลับทุกอย่าง ที่อยู่ภายในกล้องทั้งหมด 15 ตัว ค่ำคืน 14 ก.ย. 2566 จึงเป็นที่จับตาจากสื่อทุกสำนัก เฝ้ารอการแถลงของ “บิ๊กโจ๊ก” เพราะคดีนี้ กลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนปัญหาวงการตำรวจไทย และนำมาสู่การถกเถียงกันเรื่องการปฏิรูปตำรวจ เพราะมีตำรวจหลายนาย เข้าไปเกี่ยวข้อง คมชัดลึก สรุปไทม์ไลน์ การเปิดกล้องวงจรปิด เกิดอะไรขึ้นบ้าง

คดียิงสารวัตรแบงค์

“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดฉากแถลง สรุปการกู้เซิร์ฟเวอร์จากวงจรปิดบ้าน “กำนันนก” ตอนนี้กู้ได้แล้ว 100% จำนวน 13 ตัว จาก 15 ตัว เหลืออีก 2 ตัว อยู่ระหว่างการกู้คืน

 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 13 ตัว บันทึกภาพชัดเจน ใครบ้างที่อยู่ในงาน, ใครเป็นคนช่วยสารวัตรศิว, วินาทีเสียงปืนสงบ หลังลั่นไก มีคนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง ไม่มีตำรวจคนไหนจับ “หน่อง” มือปืน, ตำรวจที่นำ “สารวัตรแบงค์” และ พ.ต.อ.วศิน ส่งโรงพยาบาล ก็มีไม่กี่คน ส่วนคนบอกว่าช่วย แต่จริงๆ ไม่ช่วยก็มี ชัดเจนที่สุดคือ ภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดทั้งหมด สวนทางกับคำให้การ

บ้านกำนันนก

 

บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่า ภาพในกล้องไม่มีใครพยายามที่จะระงับเหตุ ซึ่งทุกคนเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล, กลุ่มที่หลบหนี และกลุ่มที่ช่วยควบคุมพื้นที่หลังเกิดเหตุ

 

 

ดังนั้น รายละเอียดว่าใครยิงใคร อาวุธปืนมีแน่นอน มีทั้งปืน มีทั้งตำรวจ เเละคนนอก นี่คือรายละเอียดที่ปรากฏตามภาพ หลังกู้ภาพได้จากกล้องวงจรปิด ตอนนี้ยังไม่เห็นภาพส่วนที่ยิง จึงต้องเร่งกู้อีก 2 กล้องที่เหลือ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า “ดูแล้ว นัดแรกก็ไปแล้วนะครับ ทั้งหมดให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เมื่อตำรวจไปยืนอยู่ข้างคนทำผิด ไปเป็นกิ่งก้าน ไปเป็นไม้ค้ำยัน ให้ผู้ที่เป็นนักเลง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ก็ต้องถูกลงโทษ บางคนอาจจะต้องสูญเสียอนาคต”

บิ๊กโจ๊กประชุมสรุปคดีกำนันแบงค์

ย้อนไทม์ไลน์คดียิงตำรวจทางหลวง

 

 

1. ราว 4 ทุ่มของวันที่ 6 ก.ย. 2566 ระหว่างงานกินเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน “กำนันนก” ใน จ.นครปฐม ซึ่งเต็มไปด้วยตำรวจ และ พลเรือน รวมกว่า 50 คน จู่ๆ “หน่อง” ลูกน้องคนสนิทกำนันนก จ่อยิง “สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร ตำรวจทางหลวง 7 นัด จนเสียชีวิต และกระสุนไปโดนตำรวจอีกนาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

งานกินเลี้ยงบ้านกำนันนก

2.หลังก่อเหตุยิงตำรวจ หน่อง และ กำนันนก หลบหนีจากงานทันที เช้าวันต่อมา (7 ก.ย.) พนักงานสอบสวน จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับหน่อง ด้วยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและกระสุนไว้ในครอบครอง ขณะที่กำนันนกโดนหมายจับ ข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น

 

 

3. ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันหลังโดนหมายจับ “กำนันนก” เข้ามอบตัวทันที ส่วนหน่องยังหลบหนี

 

 

4. เช้าวันที่ 8 ก.ย. มีรายงานว่า “หน่อง” ถูกตำรวจวิสามัญฆาตรกรรม ขณะหลบหนีอยู่ใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งตำรวจให้เหตุผลว่า เพราะหน่องต่อสู้ ยิงใส่รถตำรวจก่อน และมีท่าทีจะหลบหนี

กำนันนก-หน่อง

5. หลังจากนั้น เริ่มมีการสอบสวนสาเหตุการยิง คราแรกคาดการณ์ว่า เป็นเพราะ “กำนันนก” พูดคุยเรื่องการวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งให้พวก ที่อยู่ในสายงานสังกัดสารวัตรแบงค์ แต่สารวัตรแบงค์ไม่ยอม เพราะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของต้นสังกัด แต่พยานอีกหลายปาก บอกว่า มีศึกดวลดื่มเหล้าด้วย แน่นอน กำนันนกเป็นฝ่ายแพ้ จึงยิ่งอาจทำให้เสียหน้า และเป็นชนวนทำให้เกิด ปมสั่งตาย

 

 

6. แต่อีกปมเหตุ มีการตั้งคำถาม ว่า มาจากการตกลงเรื่องส่วยรถบรรทุกกันไม่สำเร็จ แต่บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่า กำนันนกสั่งยิงสารวัตรแบงก์ เพราะไม่พอใจที่ขอย้ายลูกน้องไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องส่วย

 

 

7. แต่ที่พีคในพีคคือ ในงานกินเลี้ยง มีตำรวจร่วมสังสรรค์กว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นตำรวจภาค 7 และตำรวจทางหลวง แต่กำนันนก และหน่องมือปืน กลับหนีจากที่เกิดเหตุได้ แถมพบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน เช่น ปืนหาย เช็ดคราบเลือด ถอดกล้องวงจรปิด เป็นต้น

 

 

8. หลังจากนั้น วันที่ 10 ก.ย. ศาลจึงอนุมัติหมายจับตำรวจ 6 นาย ด้วยข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ช่วยเหลือไม่ให้คนร้ายรับโทษ, และซ่อนเร้นพยานหลักฐาน รวมทั้ง ตั้งกรรมการสอบตำรวจอีกกราวรูด

ผู้กำกับเบิ้ม

9. แต่ระหว่างที่การสืบสวน กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ก็มีข่าวช็อกเกิดขึ้น เมื่อ “ผกก.เบิ้ม” พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้บังคับบัญชาตรงสารวัตรแบงค์ ฆ่าตัวตายที่บ้านพัก ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก และถูกพาดพิงว่าเป็นคนโทรตามสารวัตรแบงค์ให้มาบ้านกำนัน กลายเป็นว่า คดีนี้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 3 คน

 

 

10. นอกจากคดียิงตำรวจทางหลวงแล้ว การสืบสวนยังสาวไปถึงธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ “กำนันนก” จนเป็นที่มาให้ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบธุรกิจ ซึ่งพบว่า ธุรกิจของกำนันนก มีการฮั้วประมูล กับหน่วยงานรัฐหลายกระทรวงในหลายจังหวัด มากกว่า 1,500 โครงการ มูลค่ารวมหลายพันล้านบาท

ผังการก่อเหตุบ้านกำนันนก

11. “กำนันนก” หรือ ประวีณ จันทร์คล้าย คือ กำนัน ต.ตาก้อง จ.นครปฐม ว่ากันว่าเป็นคนใจถึงพึ่งได้ ลูกน้องเยอะ มากบารมี และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งยังมาจากตระกูลที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสารพัด ไม่ว่าจะตัดถนน สร้างสระพาน ขุดคลอง สร้างอาคาร และวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ แม้อายุเพียง 35 ปี เขาจึงกลายเป็นผู้มั่งคั่ง ร่ำรวย มีตำรวจอยู่ในมือ

 

 

อย่างไรก็ตาม คดี “ยิงตำรวจทางหลวง” กลายเป็นหนึ่งคดีใหญ่ สะเทือนวงการตำรวจไทย ที่ถูกตั้งคำถามว่า เมื่อไรจะถึงเวลาปฎิรูปเสียที

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ