โรงงาน 'พลุระเบิด' โศกนาฏกรรม ซ้ำซาก ที่ไม่ใช่ครั้งแรก

เหตุระทึกขวัญ โรงงาน “พลุระเบิด” สุพรรณบุรี กลางวันแสกๆ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 รับปีมังกรทอง คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20 ชีวิต เหตุการณ์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซาก นับครั้งไม่ถ้วน 

 

 

 

 

 

 

หากย้อนไทม์ไลน์เหตุ “โกดังพลุระเบิด” ที่ใหญ่ไม่แพ้ครั้งนี้ น่าจะเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เรียกได้ว่า เป็นแหล่งผลิตนพลุขนาดใหญ่ เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ไม่นับรวมเหตุโกดังพลุระเบิด ที่เกิดขึ้นอีกหลายแห่ง คมชัดลึก ย้อนไทม์ไลน์ “โกดังพลุระเบิด” โศกนาฏกรรมซ้ำซาก

 

ย้อนรอย โศกนาฏกรรม โรงงาน พลุระเบิด

 

 

3 ต.ค. 2547 เรื่องราวของโศกนาฏกรรม “พลุระเบิด” ที่เกิดจากความผิดพลาด ในกระบวนการผลิตพลุและดอกไม้ไฟเกิดขึ้นในพื้นที่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อโรงงานผลิตดอกไม้ไฟ “บุญเหลือดอกไม้ไฟ” เกิดเหตุระเบิดขึ้น เสียงระเบิดที่ดังสนั่นไกลกว่า 10 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 14 คน และทั้งหมดล้วนเป็นญาติพี่น้องของเจ้าของโรงงาน คือ นายบุญเหลือ อิ่มสุวรรณ์

 

 

หลังจากเหตุการณ์ในปี 2547 เพียงแค่ 7 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านเกาะ ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกครั้ง เมื่อมีเสียงระเบิดดังจากบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ที่มีการผลิตพลุในครัวเรือน แรงระเบิดฉีกร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ โครงสร้างบ้านกระจัดกระจาย และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย

 

 

และจากนั้นเพียงไม่นาน ในปี 2557 เหตุพลุระเบิดก็เกิดซ้ำอีกครั้งที่ ต.บ้านเกาะ ในบ้านของชาวบ้านที่ผลิตพลุในครัวเรือนจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

 

4 ก.พ. 2564 เกิดเหตุ โกดังพลุระเบิด ในพื้นที่ ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร มีผู้เสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นลูกชายเจ้าของโรงงาน ส่วนแม่เจ้าของโรงงานสูญหาย นอกจากนั้นเพลิงลุกลามไหม้บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง

 

 

ก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ จ.พิจิตร เคยเกิดเหตุ “โกดังพลุระเบิด” หลายครั้ง โดยเมื่อ 14 เม.ย. 2562 เกิดเหตุโรงงานทำพลุระเบิด บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 7 ต.ดงป่าคำ จนทำให้โรงเรือนที่ทำด้วยไม้วอดไปทั้งหลัง เสียหายเบื้องต้น 200,000 บาท แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

 

 

วันที่ 22 ม.ค. 2552 เกิดเหตุโรงงานผลิตพลุระเบิดที่ ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก มีผู้เสียชีวิตเป็นชายเจ้าของโรงงาน ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส มีรายงานว่าโรงงานพลุแห่งนี้เคยระเบิดมาแล้วในปี 2538 และมีผู้เสียชีวิต 5 คน รวมทั้งลูกชายของเจ้าของโรงงาน

 

 

30 พ.ย. 2565 “โกดังพลุระเบิด” ที่บ้านข่อยงาม ม.3 ศาลาขาว จ.สุพรรณบุรี เหตุการณ์นี้ทำให้คนงานเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บมีแผลไฟไหม้ 3 คน เหตุที่มีผู้เสียชีวิตน้อย และ ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย เนื่องจากสภาพที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานผลิตพลุเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา

 

 

เหตุการณ์ล่าสุด ซึ่งห่างจากเหตุ “โกดังพลุระเบิด” ที่นราธิวาส ไม่นาน คือเหตุการณ์ โรงงานผลิตพลุระเบิด ในพื้นที่ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเด็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันนที่ 24 ก.ค. 2566 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน บ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลัง และจากการตรวจสอบทราบว่า โรงงานผลิตพลุแห่งนี้ เคยเกิดเหตุระเบิดแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 6-7 ปีก่อน จนมาเกิดซ้ำอีกครั้ง

 

 

เหตุโศกนาฏกรรม ที่เกิดจาก “โกดังพลุระเบิด” ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายที่ ที่เกิดเหตุในลักษณะนี้ ซึ่งการเกิดเหตุระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในกระบวนการผลิตพลุนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุใด และอะไรทำให้ชาวบ้านที่นี่ยังคงยึดอาชีพผลิตพลุ ทั้งๆ ที่รู้ถึงความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกวินาที เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบ