ดับซ่าแก๊งโจ๋ซิ่ง จยย.เจอเจ้าถิ่นควง 'อีโบ๊ะ' ไล่ยิงกระสุนพุ่งฝังขา 117 นัด

เหตุวัยรุ่นถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังในบริเวณขาถึง 117 นัด เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 11 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุยิงกัน บริเวณสถานีรถไฟปราจีนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ  แต่ไม่พบตัวผู้บาดเจ็บ ส่วนกลุ่มผู้ถูกยิงขี่รถจักรยานยนต์ แยกย้ายกันหลบหนีไปแล้ว

 

ล่าสุด ญาติของชายวัยรุ่นที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เดินทางไปที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ฟีม (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายมีร่องรอยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด ฝังอยู่บริเวณขาด้านขวา จำนวน 117 นัด โดยผู้บาดเจ็บได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์

 

จากการตรวจสอบรถที่ถูกยิง พบว่าเป็นรถ ฮอนด้า เวฟ สีดำเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยบริเวณตัวรถพบร่องรอยกระสุนปืน ยิงบริเวณท้ายรถด้านขวา มีรูกระสุนทะลุบอดี้ของตัวรถจำนวน 14 นัด

 

 

 

 

เด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขณะที่ตนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์จาก "บ้านโป่งไผ่" โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปเที่ยวงานเกษตร ที่ จ.ปราจีนบุรี โดยไปกับเพื่อน 3 คัน รวม 6 คน จากนั้นได้ไปรวมกลุ่มกับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในตัวจังหวัด โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวภายในบริเวณงาน จำนวน 10 คัน ตอนช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. 

 

ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้ที่ก่อเหตุได้ขับสวนทางมา และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงของระเบิด จากนั้นกลุ่มของพวกตนจึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ไปคนละทิศละทาง กระทั่งมาทราบว่า เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายรถนั้นถูกอาวุธปืนยิง ส่วนสาเหตุที่ยิงถูกยิงนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร หลังจากที่ถูกยิงแล้ว จึงได้ขับรถกลับมาบ้านที่โป่งไผ่ เพื่อมานั่งแคะลูกกระสุนออกจากบริเวณขาของเพื่อน

 

จากนั้นเมื่อเวลา 02.00 น เพื่อนของตนซึ่งถูกยิง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และมีอาการเจ็บปวด จึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานเขตบ้านโป่งไผ่ เพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และให้แพทย์ทำการรักษาอาการ
 

 

 

 

น.ส.อรวรรณ (สงวนนามสกุล)  อายุ 35 ปี แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้ขอตนไปเที่ยวงานเกษตร กับพวกเพื่อนๆ  ซึ่งวันเกิดเหตุนั้น เป็นคืนวันสุดท้าย ตนจึงอนุญาตให้ไป โดยทางลูกชายเล่าให้ฟังว่า ได้ขับรถออกจากงานเกษตร และกำลังจะมุ่งหน้าไปยังตลาดหน้าค่าย และเมื่อรถจยย.วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณโค้งทางรถไฟ ลูกชายและเพื่อนๆ ซึ่งขี่รถกันมามากกว่า 10 คัน

 

 

 

 

จากนั้นได้มีรถมอเตอร์ไซค์ วิ่งขับสวนทางมา และเมื่อเห็นกลุ่มของลูกชาย จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส่ทันที จนทำให้กลุ่มของลูกชายตน แตกกระเจิง หลบหนีไปคนละทิศละทาง ด้วยความกลัว ลูกชายของตนจึงขับรถไปยังบ้านเพื่อน และมาดูบาดแผล โดยพบว่า มีกระสุนเข้าฝังในบริเวณขาหลายจุด กระทั่งทนเจ็บบริเวณบาดแผลไม่ไหว จึงได้ร้องขอทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

 

 

 

 

เบื้องต้นทางแพทย์ รพ.เจ้าพระยาภูเบศร ได้นำเอาผลเอกซเรย์ มาให้ดู พบว่า มีลูกกระสุนฝังใน จำนวน 117 เม็ด ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ยังไม่ผ่าเอากระสุนออกตอนนี้ เพราะอาจจะทำให้แผลเปิดกว้าง และเกิดอาการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ แพทย์จะขอรอดูอาการ 4-5 วัน และจะประเมิน เพื่อทำการผ่าตัดต่อไป อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอฝากไปบอกถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยว่า อยากจะให้เข้ามามอบตัว และอยากจะถามว่า ทำไมถึงยิงใส่กลุ่มลูกชายของตน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อทำการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณใกล้เคียง เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นคาดว่า อาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ น่าจะเป็นปืนแบบลูกซองสั้น หรืออาวุธปืนแบบอีโบ๊ะ ที่บรรจุลูกปืน แบบลูกซอง ได้ครั้งละ 1 นัด

 

 

สายชล หนูแดง จ.ปราจีนบุรี