ผ่าแผน 'พระอาจารย์คม' ก่อนเจอขุมทรัพย์ วัดป่าธรรมคีรี รวม 280 ล้าน

การจับกุม “พระอาจารย์คม” ในคดี ยักยอกเงิน วัดป่าธรรมคีรี กว่า 200 ล้านบาท เป็นคดีสะเทือนวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ ท่ามกลางความเลื่อมใส และความศรัทธาของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ที่ร่วมทำบุญกับวัดมาโดยตลอด

 

 

 

 

โดยเฉพาะยิ่งพบแผนการลึก กับพฤติการของอดีต “พระอาจารย์คม” ที่แอบโทรฯสั่ง พระลูกสมุน ขนทรัพย์สินหนี ระหว่างถูกคุมขัง จนนำไปสู่การขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม 6 ราย และสามารถยึดคืน “ทรัพย์สินวัด” อีกกว่า 100 ล้านบาท

 

รายชื่อผู้ร่วมขบวนการ ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี

 

 

1. นายบุญส่ง หรือ พระบุญส่ง ผ่านภูวงษ์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ 67/2566 ลง 9 พ.ค. 2566
2. นายบุญเหลือ หรือ พระบุญเหลือ โพธิ์ทอง ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบที่ 68/2566 ลง 9 พ.ค. 2566
3. นายธนกฤษ หรือ พระธนกฤษ ยศสุรินทร์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบที่ 69/2566 ลง 9 พ.ค. 2566
4. นายบัณฑิต หรือ พระบัณฑิต ย่อยชา ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบที่ 70/2566 ลง 9 พ.ค. 2566
5. นายณัฐพัชร์ หรือ พระณัฐพัชร์ ตั้งใจสนอง ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบที่ 71/2566 ลง 9 พ.ค. 2566
6. นายบุญศักดิ์ ภัทรโกศล ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ 72/2566 ลง 9 พ.ค. 2566

 

 

โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันรับของโจร”

 

ขุมทรัพย์ของกลางกว่า 100 ล้านบาท

 

 

1. เงินสด รวม 76,021,813 บาท
2. ทองรูปพรรณ 920 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านบาท
3. ทองคำแท่ง 46 รายการ น้ำหนักประมาณ 500 บาท มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท
4. ทองคำแผ่น 540 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 3.2 ล้านบาท
5. สมุดบัญชี จำนวน 30 เล่ม
6. หนังสือเดินทาง จำนวน 3 เล่ม
7. รถยนต์ตู้จำนวน 1 คัน
8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง

** รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดเกือบ 100 ล้านบาท

 

 

 

เปิดแผนการ พระอาจารย์คม

 

สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ได้จับกุม นายคม หรือ พระอาจารย์คม พระสายวิปัสสนาชื่อดัง พร้อมกับพวก ยักยอกเงิน วัดป่าธรรมคีรี มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท ภายหลังการจับกุม กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบข้อมูลสำคัญจากนายวุฒิมาฯ หรือ พระหมอ หนึ่งในผู้ต้องหาคดียักยอกเงินวัด ให้การว่า เป็นคนนำเงินของวัดจำนวน 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำ ตามคำสั่งของอดีตพระอาจารย์คม มาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟ ภายในกุฏิของนายวุฒิมาฯ

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดป่าธรรมคีรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในกุฏิของนายวุฒิมาฯ พบว่า ทองคำตามที่นายวุฒิมา ฯ ให้การไว้ข้างต้นได้หายไป จนกระทั่งทราบว่า มีขบวนการช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คม เป็น พระสงฆ์ จำนวน 5 รูป และ นายบุญศักดิ์ฯ ( คนขับรถของวัด ) ช่วยกันขนย้ายทองคำแท่ง และทรัพย์สินต่างๆ ขนใส่รถตู้ แล้วนำไปจอดไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ห่างจากวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายหลบหนี

 

 

เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้กลุ่มผู้ช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คม นำเอาทองคำ และทรัพย์สินกลับเข้ามาในวัดอีกครั้ง ก่อนจะทำการตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆ ไว้เป็นของกลาง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

 

 

จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนที่ พระอาจารย์คม พระหมอ และน้องสาวพระอาจารย์คม จะถูกตำรวจเข้าจับกุม ปรากฎว่า พระอาจารย์คม และ พระหมอ ได้สั่งการให้ขบวนการนี้ ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากกุฏิให้หมด โดยนำไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัด ต่อมาหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และถูกควบคุมอยู่ พระอาจารย์คม ได้ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่า ขอติดต่อญาติ ให้นำยารักษาโรคประจำตัวของน้องสาวมาให้ แต่ปรากฎว่า พระอาจารย์คม ได้แอบใช้โทรศัพท์ สั่งการให้กลุ่มขบวนการนี้ ช่วยกันทำการขนย้ายเงินสด และทองคำ ออกไปข้างนอกวัดให้หมด ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน จึงได้นำไปขุดฝังเอาไว้ที่ภูเขาด้านหลังวัด

 

 

จากข้อมูลข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา ที่ 1- 6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทรัพย์สินวัด จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดกลับคืนมาได้แล้วจำนวนกว่า 280 ล้านบาท

 

 

อย่างไรก็ตาม วัดป่าธรรมคีรี มีพระสงฆ์ 22 รูป ถูกจับกุม และสึกไปแล้ว 9 รูป ส่วนผู้ร่วมขบวนการ จากพยานหลักฐานเชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นพระลูกวัด ที่อยู่ภายใต้การควบคุม สั่งการได้ หรือพระลูกวัดที่สนิทและไว้ใจของอดีต พระอาจารย์คม ซึ่งขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ถูกจับกุมหมดแล้ว ส่วนทรัพย์สินของวัดที่ถูกยักยอกไป ยังเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลติดตามกลับคืนมาต่อไป