หนุ่มใหญ่"มือปืน" ยิงเถ้าแก่เจ้าของรถหัวลากดับ มอบตัวแล้ว สารภาพหึงสะสมนาน หลังเมียปันใจให้เถ้าแก่ ตร.เตรียมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งศาลอาญามีนบุรี
24 ก.พ.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ร่มเกล้า เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าแคมป์ที่พักคนงาน ภายในซอยสมบูรณ์ทรัพย์ 3 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. ผู้เสียชีวิตคือนายชาตรี กลั่นกลึง อายุ 47 ปี เถ้าแก่เจ้าของที่ดินให้เช่า และเป็นเจ้าของบริษัทรถหัวลาก สำหรับรับจ้างขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ย่านลาดกระบัง
สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ตามลำตัว 6 นัด และแขนซ้าย 2 นัด รวม 8 นัด นอนหายใจโรยริน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 23 ก.พ.2566
เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุยิงนายชาตรี เป็นผู้ที่มาเช่าที่จอดรถ และอาศัยอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ในบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือนายบุญมา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี สาเหตุเกิดจากความหึงโหดหลังเกิดเหตุ
จากการสอบถามภรรยานายบุญมา ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายชาตรี ผู้เสียชีวิตนั่งดื่มสุราอยู่กับลูกน้องอยู่บริเวณหน้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นสำนักงาน ภรรยาของนายบุญมาได้นำกับแกล้มมาให้นายชาตรี ขณะที่นายบุญมา ผู้ก่อเหตุเกิดไม่พอใจและได้มาตามภรรยากลับเข้าห้องพัก ก่อนที่จะนำอาวุธปืนออกไปจ่อยิงนายชาตรี จนเสียชีวิต โดยนายบุญมา ยังได้ประกาศว่า "เมียใคร ใครก็รัก" จากนั้นผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ร่มเกล้า เปิดเผยว่าจากการกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายบุญมา ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยสาเหตุหลักมาจากเรื่องหึงหวง
โดยผู้ก่อเหตุ ให้การว่าปัญหาเกิดสะสมมานานกว่า 4-5 ปีแล้ว วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตนั่งดื่มกินตามปกติ ทางภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ทำยำวุ้นเส้นไปให้เถ้าแก่ ผู้ก่อเหตุเรียกให้กลับเข้ามาในห้อง 3 รอบ แต่ฝ่ายหญิงไม่กลับ ทำให้เกิดความโมโห เดินไปหยิบปืนยิงเถ้าแก่เสียชีวิต ก่อนหนีไปซ่อนตัวและยอมเข้ามอบตัวในที่สุด”
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมกับคุมตัวส่งศาลอาญามีนบุรีภายในวันนี้ สำหรับปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ทางผู้ต้องหาอ้างว่าได้รับจำนำมาจากเพื่อน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องนำปืนดังกล่าวส่งให้กับทางพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่าเคยมีประวัติใช้ก่อเหตุมาก่อนหน้านี้หรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ระบุชื่อดาบตำรวจคนหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเชิญตัวมาให้ปากคำ เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลที่มาที่ไปของอาวุธปืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง