ข่าว

"ผบ.ตร." เสียใจเหตุปะทะทำนักข่าวบาดเจ็บ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกกอ.ร่วม ฯ เผย ผบ.ตร.เสียใจที่ "สื่อมวลชน" บาดเจ็บจากเหตุปะทะในการชุมนุมเมื่อวานนี้ พร้อมย้ำว่าทำตามยุทธวิธีทุกขั้นตอนหลังผู้ชุมนุมฝ่าฝืนออกนอกพื้นที่

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุม "เอเปค" 2565 (โฆษกกอ.ร่วมฯ) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องในช่วงการประชุม"เอเปค" และมีการ "ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถนนดินสอเมื่อวานนี้ว่า ยืนยันว่า"ตำรวจ" ปฏิบัติตามขั้นตอนและยุทธวิธีในการสลายการชุมนุม เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งผิดเงื่อนไข และ"ตำรวจ" ก็ได้แจ้งเตือนด้วยเครื่องขยายเสียงอยู่ตลอดเวลา 

กลุ่มผู้ชุมนุมกลับใช้ลวดสลิงขึงเพื่อดึงทำลายแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการทำร้ายร่างกายและขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ 


ที่ผ่านมา "ตำรวจ"พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังมาโดยตลอด แต่สถานการณ์ในขณะนั้น "ตำรวจ" จำเป็นต้องเข้ายับยั้งตามยุทธวิธีหรือเหตุการณ์ซึ่งหน้าที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับลำดับการใช้ยุทธโธปกรณ์หรือระยะเวลาการควบคุมสถานการณ์ แต่ขึ้นอยู่กับความอันตรายของสถานการณ์ ณ เวลานั้น เช่น มีการใช้ท่อนไม้ตีประชิดตัวเจ้าหน้าที่ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์เพื่อระงับเหตุ เป็นต้น

ส่วนกรณีที่ "สื่อมวลชน" และผู้ร่วมชุมนุมได้รับบาดเจ็บ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ และร่องรอยบาดแผลว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้ว และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมระบุว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสียใจต่อกรณีที่"สื่อมวลชน" ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของ "ตำรวจ" เมื่อวานนี้ และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง"สื่อมวลชน" และเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด

ส่วนกรณีที่แกนนำผู้ชุมนุมบางคนโพสต์ประกาศตั้งค่าหัว ให้รางวัล 1 หมื่นบาทกับประชาชนที่มีเบาะแสตำรวจควบคุมฝูงชนที่ปรากฎภาพยิงกระสุนยาง หรือทำร้ายประชาชนนั้น โฆษกกอ.ร่วมฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ภาพดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์ที่ถนนดินสอ เมื่อวานที่ผ่านมา แต่เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นในการชุมนุมครั้งก่อนหน้านี้ แต่"ตำรวจ"ยังไม่ทราบว่าเป็นภาพจากเหตุการณ์ช่วงเวลาใด 

ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หารือกับฝ่ายกฎหมายตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวแล้วว่า จะเข้าข่ายโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ยั่วยุ หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากถึงประชาชนให้ใช้ดุลพินิจในการติดตามข่าวสารต่างๆ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ