"แท็กซี่-รปภ.ห้างฯ" ดอดรับทราบข้อหากลางดึก

 

              จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างโชเฟอร์แท็กซี่กับทาง รปภ.ของห้างดังย่านอโศก ที่บริเวณจุดรับส่งผู้โดยสารประตู2หน้าห้างดังกล่าว โดยทางห้างได้ชี้แจงว่าแท็กซี่คันดังกล่าวทะเบียน ทห-468กรุงเทพฯ สีชมพู ไม่ยอมรับผู้โดยสารที่มาโบกรถ ทาง รปภ.จึงให้รถคันดังกล่าวขับรถออกจากจุดดังกล่าวทันที แต่โชเฟอร์กลับมีปากเสียงกับทาง รปภ.จนปรากฎเป็นคลิปแชร์ทางโลกออนไลน์ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งได้นัดหมายที่จะเข้าให้ปากคำเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 พ.ย. แต่ก็ไร้วี่แวว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : แชร์ว่อน !! รปภ.ห้างดังรุมกระทืบแท็กซี่)

 

 

 

 

 

              ล่าสุดเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 30 พ.ย. 2561 ที่ สน.ลุมพินี นายมนต์ตรี สิทะเบียน รปภ.ของห้างฯ พร้อมด้วยคู่กรณี นายเขตธิคุณ รัตนะ โชเฟอร์แท็กซี่ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.นพภา ทองบ่อ รองสว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหา “ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ” และปรับคนละ 500 บาท ก่อนให้ทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันกลับไป โดยระหว่างนั้นทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันอย่างเข้าใจ ก่อนจับมือกันต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย

 

 

 

 

              ภายหลังจากนั้น นายเขตธิคุณ โชเฟอร์แท็กซี่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า วันนี้ทางตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา ทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ แต่ในส่วนตัวผมขอยืนยันว่า ไม่ได้ไปสร้างความรำคาญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิดกับทางคู่กรณีสองคนเท่านั้น แต่ตามที่นำเสนอไปตามสื่อต่างๆว่าตัวผมปฏิเสธผู้โดยสารนั้น ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทางคู่กรณีอยู่ในเหตุการณ์ก็สามารถยืนยันได้ โดยวันเกิดเหตุตนไปส่งผู้โดยสารที่ห้างดังกล่าว ระหว่างนั้นมีความวุ่นวาย มีประชาชนนักท่องเที่ยวเดินข้ามถนนจำนวนมาก ประกอบกับอากาศมันร้อน จนเป็นเหตุให้กระทบกระทั่งกัน และใจร้อนกันไปหน่อย จึงทำให้เหตุการณ์บานปลายดังกล่าว

 

 

 

 

              “อีกทั้งในขณะนี้ที่มีสื่อสังคมออนไลน์กำลังโจมตีผม ผมวอนขอเถอะครับ ซึ่งรถแท็กซี่คันนี้เป็นของผมเอง กำลังเช่าซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของผมเอง และต้องทำมาหากินอีกนาน โดยเหตุการณ์นี้เป็นเพียงการทะเลาะวิวาท เข้าใจผิดกับคู่กรณีเท่านั้น และเมื่อช่วงค่ำตนติดธุระไม่สามารถมาพบตำรวจตามนัดได้ จึงขอมาพบกับตำรวจเมื่อกลางดึก ได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้วตกลงกันได้แล้ว และไม่ติดใจเอาความกันแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอารมณ์ร้อนของทั้งสองฝ่าย” โชเฟอร์หนุ่ม ระบุ