รวบหนุ่มหื่นแชทลวงสาว 19 กักขังขืนใจ !!

              เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2561 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น.ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 ถึงกรณีเจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.7 สน.ตลิ่งชัน และ สืบสวน บก.ภ.จว.เพชรบุรี ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีน่าสนใจและสมควรเตือนภัยให้ประชาชนรับทราบ คือ นายศาสฑฎา หรือ ท็อป บัวทอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 467 ถนนราชดำเนินนอก ซอยบางระมาด 11 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.501/2561 ลงวันที่ 12 ต.ค.61 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

              การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศาสฑฎา ผู้ต้องหารายนี้ ได้ชักชวน น.ส.แพรว (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุตรสาวของนักสะสมพระเครื่องชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ที่รู้จักกันผ่านโปรแกรมแชทในเฟซบุ๊ก ไปกินดื่มสุรากับที่สถานบันเทิงในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน พอเมาได้ที่จากนั้นช่วงเที่ยงคืนวันที่ 6 ต.ค. นายศาสฑฎา ก็ได้พา น.ส.แพรว ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาดำ ไม่ทราบทะเบียน ไปที่บ้านพักไม่ไกลจากสถานบันเทิงเพื่อขังเอาไว้ แล้วอีก 2 ชั่วโมงต่อมา นายศาสฑฎา ก็ย้อนกลับไปข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.แพรว จนสำเร็จความใคร่

              จากนั้นแทนที่ นายศาสฑฎา จะปล่อยเหยื่อหรือพาเหยื่อไปส่งที่บ้านพัก กลับยึดเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายเอาไว้ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 6 ต.ค. นายศาสฑฎา ได้พา น.ส.แพรว ขึ้นรถขับไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มข้างร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านบางแวก ภาษีเจริญ แล้วยึดเงินที่กดได้ไป 500 บาท ซึ่ง น.ส.แพรว ได้ใช้โอกาสนี้วิ่งหนีนายศาสฑฎา ออกจากตู้เอทีเอ็มมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี แล้วเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน

              โดยหลังจากที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน ขออำนาจศาลออกหมายจับแล้วนั้น นายศาสฑฎา ไหวตัวทันหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยให้ญาติผู้ใหญ่ประสานมากับทางตำรวจว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ดังนั้นฝ่ายสืบสวน บก.น.7 และ สน.ตลิ่งชัน จึงต้องทำการประสานกับฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.เพชรบุรี เข้าจับกุมนายศาสฑฎา เอาไว้ได้ในที่สุด ซึ่งจะควบคุมตัวนายศาสฑฎา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป