มอบเงินเยียวยาให้ญาติ-ผู้บาดเจ็บเหยื่ออาก้า

 

          วันที่ 9 ต.ค. 2561 จากกรณีที่กลุ่มวัยรุ่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืนอาก้า กราดยิงใส่คู่อริบริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า เซ็นธารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จนมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเหตุระหว่างเจ้าถิ่นกับคนนอกพื้นที่นั้น

 

          ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงพยาบาลราชวิถี พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รรท.ผบช.ทท. , พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 และตัวแทนปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบเงินเยียวยาให้กับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุวัยรุ่นไล่ยิงกันดังกล่าว รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยมีนายบาสแซน เกรชา (Mr.Basant Gakhreja) อายุ 45 ปี พี่ชายของ นายดีรัช เกรชา (Mr. Dheeraj Gakhreja) อายุ 41 ปี นักท่องเที่ยวผู้เสียชีวิตชาวอินเดีย เป็นตัวแทนรับมอบ โดยมีผู้ช่วยสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยเข้าร่วม

 

 

          พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า จากเหตุดังกล่าวไม่มีฝ่ายใดที่อยากให้เกิดขึ้น โดยทางตนพยายามพูดคุยให้ทุกฝ่ายรับทราบว่า เรามีมาตรการในการเยียวยา ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับทางญาติจนเป็นที่เข้าใจ และก็พอใจกับผลการเยียวยา เบื้องต้นบริษัทประกันยินยอมที่จะชดเชยเงินให้กับผู้เสียชีวิตเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท คาดว่าจะได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ และอีกส่วนที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะชดเชยให้ภายในเย็นวันนี้ ก็จะโอนเข้าบัญชีของภรรยาผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ล้านบาท รวมแล้ว 2 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ก็จะมอบค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท พร้อมวงเงินค่ารักษาพยาบาลของบริษัทประกันภัยไม่เกิน 5 แสนบาท รวมแล้ว 1 ล้านบาท   

 

 

          ด้าน พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า ในส่วนของคดี ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย คือนายปรีชา หรือตั้ม ศักดิ์อุดมไพศาล อายุ 28 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กดังกล่าว โดยจะมีการออกหมายจับเพิ่มภายในเย็นวันนี้อีกประมาณ 6-7 คน คาดว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้.

 

 

          น.ส.วรรณิภา บุญยอ อายุ 42 ปี มัคคุเทศก์ เปิดเผยว่า กลุ่มทัวร์ดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัทขายประกันรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศอินเดีย ซึ่งได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย ตั้งแต่วันที่ 4-7 ต.ค. ประมาณ 100 กว่าคน โดยมีโปรแกรมเที่ยวที่พัทยา 4-6 ต.ค. และวันที่ 7 ต.ค. มา กทม. เพื่อชอปปิ้ง ก่อนเดินทางกลับขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 02.00 น. (8 ต.ค.) แต่ระหว่างที่แวะชอปปิ้งและกินข้าว บริเวณจุดเกิดเหตุ ก็พบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว มีการพกอาวุธปืน ทางไกค์นำเที่ยวจึงเรียกลูกทัวร์ขึ้นรถ โดยนายเกรชา ดีรัช อายุ 42 ปี (ผู้เสียชีวิต) และนายชามา ดาเมนด้า อายุ 45 ปี (ผู้บาดเจ็บ) เป็นตัวแทนขายประกันที่บริษัทนี้ และนั่งโต๊ะกินข้าวอยู่ ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ผู้ตายที่นั่งหันหลังอยู่ และคนเจ็บที่นั่งใกล้กันถูกยิงล้มลง พบว่าคนตายมีแผลถูกยิงจากหลังทะลุท้องตัดเส้นเลือดใหญ่ โดยพูดประโยคสุดท้ายว่า “บอกเมียฉันด้วย” ก่อนที่จะนำส่งแพทย์

 

 

          ด้านนายบัสแซน ดีรัช อายุ 45 ปี พี่ชายนายเกรชา เปิดเผยผ่านล่ามแปลว่า น้องชาย เดินทางจากประเทศอินเดีย มาถึงไทย และรับศพกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น ของวันที่ 8 ต.ค. เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่เมืองอุไดร์บูร์ ประเทศอินเดีย ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็เข้าใจว่าเป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่เข้าช่วยเหลือ รวมทั้งช่วยนำร่างกลับไปประเทศอินเดีย ได้อย่างรวดเร็ว.