ปส.รวบแก๊งซุปเปอร์คาร์เครือข่ายยานรก !!

 

             เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค.2561 ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร  สารสิน รรท.ผบช.ปส. นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส. พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4 รรท.ผบก.ปส.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 10 คน ยาบ้า จำนวน 504,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 11 กิโลกรัม กัญชาอัดแท่ง จำนวน 458 กิโลกรัม รถยนต์ 8 คัน โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง เงินสดและทองคำรูปพรรณ รวมของกลางและทรัพย์สินมูลค่ากว่า 76 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

 

             คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส. 3 บช.ปส. , พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ขส.บช.ปส. ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายขวัญเมือง ศรีสุข อายุ 54 ปี (ผู้ต้องหาที่1) นายเจษฎาพร สันตติพงศ์ อายุ 26 ปี (ผู้ต้องหาที่2) นายสิริเชษฐ์ พฤกษาชาติเจริญ อายุ 29 ปี (ผู้ต้องหาที่3) นายวัชรพล เขียวน้อย อายุ 24 ปี (ผู้ต้องหาที่4) และนายกรกฎ สันตติพงศ์ อายุ 25 ปี (ผู้ต้องหาที่5) พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 504,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 11 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อหรูประกอบด้วย พอร์ช โฟล์ค ฮอนด้า โตโยต้า เชฟโรเลต จำนวน 5 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน  12 เครื่อง บัญชีธนาคารและเอกสารเกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 15 รายการ

 

 

 

 

             พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่จากทางภาคเหนือ โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 และ 5 เป็นผู้สั่งการ ทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาเก็บไว้ใน บ้านพักเลขที่ 86/420 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อรอกระจายส่งมอบให้กับลูกค้า จึงสะกดรอยติดตามนานกว่า 4 เดือน ต่อมาพบว่ากลุ่มดังกล่าว โดยใช้รถยนต์หรูในการดูต้นทางขนลำเลียงยาเสพติด ต่อมาได้ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณด่านเก็บเงินบางขุนเทียน 2 ทางพิเศษกาญจนาภิเษก-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ตรวจค้นรถยนต์ของกลางพบยาบ้า จำนวน 59 มัด ประมาณ 118,000 เม็ด จากนั้นขยายผลพร้อมตรวจค้นและยึดยาบ้าได้อีกประมาณ 386,000 เม็ดและไอซ์ 11 กิโลกรัม ภายในที่บ้านเลขที่ 86/420 หมู่บ้านโมดิวิลล่า ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 504,000 เม็ด แล้วทำการสืบสวนขยายผลเข้าจับกุม จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้บริเวณหน้าผับ เฮิร์ท (Hurt) 454-456 ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จับกุมผู้ต้องหาที่ 3,4 ได้ที่บริเวณซอยประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึ่งกุ่ม กทม. และจับกุมผู้ต้องหาที่ 5 ได้ที่บริเวณคอนโด Patio ต.แสนสุข อ.บางแสน จ.ชลบุรี

 

 

 

 

             เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

 

             คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส. 2 บช.ปส. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิเคราะห์ข่าว บก.ปส.2 และ บก.ขส. ,ปปส. ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายอนุชิต กัลยาประสิทธิ์  อายุ 21 ปี นายนพัตน์ ศรีธาดา อายุ 18 ปี นายไพฑูรย์ ธัญญารักษ์ อายุ 40 ปี นายเตชินท์ แก้วสงค์  อายุ 34 ปี และนางมณีรัตน์ รังวรรณา อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 458 กิโลกรัม รถยนต์จำนวน 3 คัน และโทรศัพท์มือถือจำนวน 6 เครื่อง

 

 

 

 

             พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอนุชิต พร้อมกับพวก มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่งจำหน่ายให้ลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก จึงเฝ้าติดตามและวางแผนจับกุม ต่อมาพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฎท 9108 กทม. ขับขี่อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม มุ่งหน้า จ.สกลนคร ตรงกับสายลับได้แจ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ด้วยความเร็วสูงและเสียหลักพลิกคว่ำ ตกลงข้างทางบริเวณริมถนน หนองเม็ก - บ้านดุง สี่แยกบ้านโพธิ์  ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี โดยสามารถจับกุมตัวนายอนุชิตและนายนพัตน์ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมาด้วยเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นพบกัญชาอัดแท่ง จำนวน 458 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว ก่อนขยายผลจับกุมนายไพฑูรย์ นายเตชินท์ และนางมณีรัตน์ ได้ขณะขับรถยนต์นำทางให้กับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

 

 

 

 

 

             เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป