ข่าว

แม่เด็ก 5 ขวบถูกพ่อปาดคอดับให้ปากคำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม่ ด.ช.วัย 5 ขวบ เหยื่อถูกพ่อแท้ๆใช้ขวดเบียร์ปาดคอเสียชีวิต เข้าให้ปากคำตำรวจ สน.ประเวศ ยืนยันได้เลิกรากับอดีตสามีนานกว่า 2-3 ปีแล้ว และไม่ใช่ต้นตอของสาเหตุ

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 24 ส.ค. 2561 นางปรางทอง ศรีกลั่น อายุ 34 ปี มารดาของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ได้เดินทางมาพร้อมบุตรสาวคนเล็ก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ สอบปากคำด้วยตัวเอง (อ่านข่าว : ยายช็อก !! หลาน 5 ขวบถูกพ่อแท้ๆฆ่า)

 

 

แม่เด็ก 5 ขวบถูกพ่อปาดคอดับให้ปากคำ

 

 

 

              นางปรางทอง เปิดเผยว่า ทราบข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยตนได้เลิกรากับสามีมา 2-3 ปีแล้ว โดยก่อนเลิกรากันได้ตกลงแบ่งลูกกันไปเลี้ยง โดยนายมนตรี จะนำลูกชายไปเลี้ยง 2 คน ส่วนตนนำลูกสาวคนเล็กไปเลี้ยง และตกลงกันว่าสามารถไปหาลูกได้ตามปกติ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ได้ติดต่อผ่านลูกชายมาโดยตลอด แต่ไม่ได้ติดต่อหานายมนตรี โดยตรง ซึ่งได้ติดต่อล่าสุดคือเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน จากนั้นจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย กระทั่งทราบข่าวว่านายมนตรี ใช้ขวดเบียร์แตกแบบปากฉลาม ลงมือปาดคอลูกชายจนเสียชีวิต

 

 

แม่เด็ก 5 ขวบถูกพ่อปาดคอดับให้ปากคำ

 

 

              นางปรางทอง เปิดเผยอีกว่า จากสาเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เนื่องจากนายมนตรี มีกำลังทรัพย์และหน้าที่การงานที่สามารถเลี้ยงลูกได้ ส่วนเรื่องที่เลิกรากันก็ผ่านมานานแล้ว จึงอาจไม่ใช่สาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งนายมนตรี จะมีโทรศัพท์มาบ้าง แต่ไม่เคยง้อขอคืนดีแต่อย่างใด มีบ้างที่ลูกชายคนโตจะโทรศัพท์มาเล่าว่าถูกพ่อตี แต่ก็ไม่ได้รุนแรง เป็นเพียงการตีสั่งสอนตามประสาพ่อลูกเท่านั้น ซึ่งตนก็ได้บอกลูกว่าให้เดินหนี หรืออย่าไปเถียงพ่อ โดยนายมนตรี รักลูกทั้งสองคนมาก ดูแลตลอด จึงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีการทะเลาะ หรือมีลางบอกเหตุแต่อย่างใด

 

 

แม่เด็ก 5 ขวบถูกพ่อปาดคอดับให้ปากคำ

 

 

              นางปรางทอง เปิดเผยอีกว่า อยากบอกนายมนตรี ว่า ปากบอกว่ารักลูกมาก แต่ทำไมถึงทำเช่นนี้ ตอนนี้ลูกตาย แต่ตัวเองไม่ตาย อย่างไรก็ขออโหสิกรรมให้ แต่คงไม่ไปเยี่ยมหรือพูดคุยกับนายมนตรี ทั้งนี้ ในส่วนของลูกชายคนโต คงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง จึงจะหาขอสรุปได้ว่าจะสามารถนำไปเลี้ยงได้หรือไม่ ส่วนบุตรชายคนกลางที่เสียชีวิต ในวันพรุ่งนี้(25 ส.ค.)​ จะเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนจะนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ใด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือกันกับทางญาติ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ