พ่อ"น้องหญิง" แจ้งความตำรวจกองปราบฯ ให้ดำเนินคดี "พยาบาล-แม่บ้าน" โรงพยาบาลการุณเวช หลังนำกางเกงในซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญไปทิ้ง และทำลาย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 2561 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พานายสุบิน ยาวิราช อายุ 41 ปี บิดาของ น.ส.นรีกานต์ หรือน้องหญิง อายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตตกรถเทรลเลอร์ดับอย่างปริศนา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก สันติภาตะนันท์ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพยาบาลและแม่บ้านของโรงพยาบาลการุณเวช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหา ทำลายหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง หลังพบว่าพยาบาลนำกางเกงในของน้องหญิง ส่งให้แม่บ้านนำไปทำลาย ทำให้วัตถุพยานสำคัญทางคดีหายไป โดยนำหลักฐานที่เป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างพยาบาลกับตำรวจ ว่าเป็นคนนำกางเกงในน้องหญิงส่งให้แม่บ้านนำไปทิ้ง มอบให้ไว้เป็นหลักฐาน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า พยาบาลคนดังกล่าวมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่า เหตุใดต้องโกหกญาติน้องหญิงว่าคืนกางเกงในให้ไปแล้ว แต่ต่อมากลับมายอมรับว่า ได้นำกางเกงในแยกใส่ถุงส่งให้แม่บ้านนำไปทำลาย โดยอ้างว่าเป็นขยะติดเชื้อ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวน่าสงสัยมาก เพราะปกติการเกงในเป็นสมบัติส่วนตัวของคนไข้ จะต้องคืนให้คนไข้หรือญาติเท่านั้น อีกทั้งกางเกงในไม่ใช่ขยะติดเชื้อ จึงไม่จำเป็นต้องรีบทำลายทิ้ง
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ภาพจากกล้องวงจรปิด ในวันที่ 29 ก.ค.ของโรงพยาบาล ที่ทางครอบครัวได้เข้าไปตรวจสอบบางส่วน ยังพบว่าในวันเกิดเหตุกางเกงในของน้องหญิงยังอยู่ และไม่ได้ถูกแยกใส่ถุงแดง ถุงขาว อย่างที่พยาบาลคนดังกล่าวอ้างแต่อย่างใด
นอกจากนี้เมื่อวานที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาล ยังได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีการระบุว่า อาจมีความเป็นไปได้ ที่มีความเร่งรีบในการช่วยเหลือคนไข้ และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปทุมธานี ทำให้เกิดการตกหล่น ซึ่งตามระเบียบของโรงพยาบาลแล้ว จะเก็บทรัพย์สินของคนไข้ไว้ 7 วัน หากไม่มีการติดต่อก็จะส่งต่อให้กับบริษัทฯ ที่รับทำลายนำไปทำลาย
“โดยส่วนตัวแล้ว ไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของพยาบาล และแม่บ้าน ว่าเขามีเจตนาทำลายหลักฐานหรือไม่ แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ก่อนหน้านี้ผมและพ่อของน้องหญิง ได้เข้าไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้ว เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดผู้อำนวยการโรงพยาบาล กลับบอกว่า กล้องวงจรปิดเสีย ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวมีพิรุธอย่างมาก” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีผลการชันสูตรหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศของน้องหญิงนั้น จะทราบผลใน 20 วันนับจากนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ครอบครัวของน้องหญิง ยังยื่นฟ้องแพ่งในข้อหาละเมิด เรียกร้องค่าเสียหายจากทางโรงพยาบาลดังกล่าวอีกด้วย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องเอาไว้แล้ว พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้ร้อง ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง