'ศรีวราห์' รุดสอบ 'ทนายสุกิจ'

 

               กองปราบฯ รวบทนายร่างทรง 4 G คาโรงพัก!! ก่อนเกิดเหตุชุลมุน รอง ผบก.ป. ชี้โดนข้อหาบุกรุกป่า-มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ทนายลั่น!! เตรียมเเจ้งความกลับชุดจับกุม อ้างเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการอาหารกลางวันเด็กและนักเรียนมูเซอ ด้าน ศรีวราห์ รุดสอบปากคำ

 

               เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.61 ที่ สน.พหลโยธิน น.ส.แสงสุริยเทพ พระมหาสุริยา อายุ 49 ปี ร่างทรงไฮเทค 4.0 เดินทางมาพร้อมนายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ เพื่อมาแจ้งความกับตำรวจ สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา หลังจากที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ นัท แฟนพันธ์แท้จตุคามรามเทพ และประธานชมรมเรารักพระพุทธศาสนา และ “บี ฟักโกสต์” แอดมินเพจสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสุกิจ และ น.ส.แสงสุริยะเทพ กำลังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอยู่ที่บริเวณด้านหน้า สน.พหลโยธิน อยู่นั้น พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. นำกำลังตำรวจกองปราบปราม และตำรวจ บก.ปทส. จำนวน 10 นาย ทั้งนี้ตำรวจได้แสดงหมายจับศาล จ.ตาก พร้อมอ่านหมายจับให้นายสุกิจ ทราบ โดย ร.ต.อ.ธนาวัฒน์ จันทร์พูลทรัพย์ รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. ได้อ่านข้อกล่าวหาให้นายสุกิจฟัง ระบุความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4 (1) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (1) (4) , 26 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 , 31 (3) และ ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายสุกิจได้ขอให้ไปทำบันทึกการจับกุมด้านในโรงพัก (บุกรวบ 'ทนายสุกิจ' คาโรงพัก)

 

 

 

 

               ระหว่างทางที่เดินผ่านหน้าห้องรับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเชิญตัวนายสุกิจ ไปเข้าห้องพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันและทำบันทึกการจับกุม โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามเชิญตัวด้วยวาจา แต่นายสุกิจ มีการต่อว่าเจ้าหน้าที่จนเกิดการกระทบกระทั่ง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อำนาจหน้าที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยจับนายสุกิจ นอนคว่ำลงกับพื้นและนำมือไขว้หลัง พร้อมใส่กุญแจมือ ทั้งนี้ระหว่างที่ทำบันทึกจับกุมอยู่นั้น นายสุกิจ ถูกควบคุมตัวโดยใส่กุญแจมือและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงปลดกุญแจมือออกเพื่อคลายความตึงเครียด

 

               การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายสุธน เวียงดาว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหารจาก มทบ. 310 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะวอ และตำรวจ บก.ปทส. เข้าตรวจยึดคฤหาสน์ขนาดใหญ่ จำนวน 4 หลัง ที่ปลูกสิ่งปลูกสร้างหลายหลังในพื้นที่ของอุทยานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ที่บ้านมูเซอบ้านใหม่ หมู่ 8 ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก และพบมีการปลูกบ้านถมทับถมลำห้วยที่ชาวไทยภูเขาใช้อุปโภค-บริโภค บนพื้นที่กว่า 3 ไร่

 

 

 

 

               จากการตรวจสอบ พบมีการปลูกบ้าน จำนวน 4 หลังคาเรือน บ้านพักเรือนแถว แบ่งเป็นห้องประมาณ 10 ห้อง มีห้องประชุม ห้องกาแฟ สระว่ายน้ำ และเฟอร์นิเจอร์อีกจำนวนมาก และยังพบรถชนิดต่างๆ จำนวน 18 คัน อาทิ รถแบ็คโฮ 3 คัน รถไถ รถบรรทุกน้ำ รถยนต์กระบะ ข้างรถมีป้ายติดชื่อสำนักงานกฎหมาย ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสุกิจ นั่งอยู่ในห้องพนักงานสอบสวน ได้พูดจาตะโกนโวยวายพร้อมทั้งบอกว่าเตรียมแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่กระทำเกินกว่าเหตุ ส่วน น.ส.แสงสุริยเทพ ที่เดินทางมาพร้อมนายสุกิจ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ หลังจากเกิดเหตุชุลมุนได้ขึ้นรถหลบออกไป ก่อนจะเดินทางกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมทนายความคนใหม่เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

 

 

 

 

               ต่อมาเวลา 15.15 น. หลังไม่มีความวุ่นวายแล้ว น.ส.แสงสุริยเทพ พระมหาสุริยา ร่างทรงไฮเทค 4.0 ได้ย้อนกลับมาพร้อมนายเกียรติคุณ ต้นยาง ทนายความคนใหม่ เข้าพบ พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ กับพวก ในความผิด ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา

 

               โดยภายหลังแจ้งความเสร็จแล้ว น.ส.แสงสุริยเทพ เปิดเผยว่า ตนไม่มีสำนัก ไม่มีลูกศิษย์ แต่เข้าทรงตามความศรัทธาของตัวเอง ไม่มีการเรียกเอาทรัพย์สิน ไม่มีการอ้างตัวว่ารักษาคนป่วยได้แต่อย่างไร นอกจากนี้จากการไปตรวจสอบที่ศาลแล้ว ตนเองก็ยังไม่มีการถูกออกหมายจับ จึงอยากให้สื่อออกข่าวอย่างถูกต้อง อย่าไปตัดเพียงคลิปบางส่วนมาเผยแพร่ เพราะจะทำให้ตนเสียหาย

 

 

 

 

               ต่อมาเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้คุมตัวนายสุกิจ พูนศรีเกษม มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปทส. โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. และ พ.ต.อ.อัศฐา จารุกานนท์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. ร่วมกันสอบปากคำกรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จ.ตาก พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ภายหลัง บก.ปทส. รับโอนคดีจาก สภ.พะวอ จ.ตาก

 

               นายสุกิจ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนเองไม่รู้ตัวว่าถูกออกหมายจับ ขณะที่ถูกจับกุม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอ่านหมายจับให้ฟัง แต่จับใจความอะไรไม่ได้ และไม่มีการระบุชื่อตน เมื่ออ่านเสร็จก็กระชากตนลงนอนกับพื้น ตนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีบุกรุกป่าสงวน ตนเพียงเข้าไปช่วยโครงการ โดยการนำรถน้ำไปบริการให้กับชาวบ้านฟรี ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการฟ้องร้องกันตั้งแต่ปี 2557 ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล

 

 

 

 

               สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ม.ค.61 ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีผู้บุรุกพื้นที่ป่าบริเวณหมู่ 8 ต.ด่านละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นการบุกรุกคดีเพิ่มจากคดีอาญาเลขที่ 148/2557 ของ สภ.พะวอ จ.ตาก ในวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางนายสุธน เวียงดาว หัวหน้ากรมอุทยานตากสินมหาราช พร้อมตำรวจ สภ.พะสอ และทาง บก.ปทส. เข้าตรวจสอบที่ดินดังกล่าว พบนายบรรพจน์ อาจวงษ์สา อายุ 26 ปี และ นายสำรวย พรเจริญ อายุ 66 ปี อยู่ในจุดเกิดเหตุ ได้รับการว่าจ้างให้เฝ้าที่ดินดังกล่าวและทาสีอาคารบ้านพักของนายสุกิจ

 

               เจ้าหน้าที่พบว่ามีการยึดถือครองทำประโยชน์ โดยการใช้รถแบ็คโฮทำการขุดตักปรับสภาพหน้าดินให้ราบเป็นวงกว้าง ภายในพื้นที่มีการปลูกสร้างอาคารจำนวนหลายหลัง ด้านหน้าอาคารมีป้ายคอนกรีต เขียนชื่อ โครงการอาหารกลางวันเด็กและนักเรียนมูเซอใหม่ และสาธารณสุขเบื้องต้นชาวไทยภูเขา โดยยังพบรถยนต์ ทั้งรถบรรทุก รถกระบะ รถแบ็กโฮ รถแทรกเตอร์ เครื่องปั่นไฟ และซากไก่ฟ้าหลังเทา 2 ซาก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก ลำดับที่ 7 ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

 

 

 

 

               นอกจากนี้ ที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าละเมา ตามแผนที่แนบท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 945 พ.ศ.2524 และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฏีกา ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 96 ตอนที่ 210 ลงวันที่ 23 ธ.ค.2524 โดยพื้นที่ตรงนี้เป็นป่าต้นน้ำชั้นคุณภาพลุ่มน้ำที่ 1 A และลุ่มน้ำที่ 2 มีเนื้อที่ประมาณ 4-3-92ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐ ประมาณ 396,852 บาท โดยไม่พบว่านายสุกิจ และผู้ต้องหา ที่อยู่ในพื้นที่ 2 คน มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงยึดทรัพย์สินในพื้นที่ทั้งหมด มอบหมายให้นายสุธน แจ้งความต่อ สภ.พะวอ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

 

               ต่อมาได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลออกหมายจับ นายสุกิจ นายบรรพจน์ และนายสำรวย ในความผิด 5 ข้อหาดังกล่าว คือ 1.ร่วมกันยึดถือครอบครองรวมตลอดการถึงก่อสร้างหรือเผาป่า และกระทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน 2.ร่วมกันก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยได้กระทำแก่ต้นน้ำ ลำธาร โดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยได้กระทำแก่ต้นน้ำลำธารโดยไม่ไดรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 5.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

      ทั้งนี้ ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ อยู่ระหว่างการสอบปากคำนายสุกิจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บุกรวบ 'ทนายสุกิจ' คาโรงพัก , สอบปากคำ 'ทนายสุกิจ' 6 ชม. - ให้ประกัน 2 แสน!