รวบ!! รอง สวป.เอเย่นต์ยาเสพติดส่งทางไปรษณีย์

 

               ปส. จับรอง สวป. เอเย่นต์จัดหายาเสพติดส่งทางไปรษณีย์ เจ้าตัวปฎิเสธ อ้างไม่เกี่ยวข้อง ด้าน ผบก.น.2 สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน-ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง พร้อมตั้งกรรมการสอบผู้บังคับบัญชาด้วย

 

               เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.61 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 พร้อมด้วย น.ส.ทัศพร เขี่ยวพานิช เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.2 และ บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งรอง สวป. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 225/2561 ลงวันที่ 18 มิ.ย.61 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ยาบ้า ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะตามเหตุที่ได้มีการสมคบกันแล้ว 

 

               การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.2 ได้จับกุมตัว นายอนุสรณ์ ทองสว่าง และ น.ส.อี่กองคำ สัญชาติเมียนมาร์ พร้อมของกลาง ไอซ์ 11.52 กรัม คีตามีน 50.38 กรัม ยาอี 6 เม็ด ยาบ้า 6 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านไปรษณีย์ แคนดี้ โพสต์แอนด์เพย์ เซอร์วิส แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ต่อเนื่องไปถึง ขนิษฐาแมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง หลังชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับมีการเจรจาซื้อยาเสพติดกับผู้ใช้ไลน์ ZZZ ในกลุ่มไลน์ อ้างว่ายังไม่ได้รับยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์

 

               ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.จึงได้ตรวจสอบพบว่านายอนุสรณ์ เป็นผู้มาส่งพัสดุดังกล่าว ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตุที่ร้านดังกล่าว นายอนุสรณ์ นำซองพัสดุ 2 ซองจะมาส่ง จึงตรวจค้นพบยาเสพติดอยู่ในซองพัสดุที่นำมาส่ง ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักที่ ขนิษฐาแมนชั่น พบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกส่วน และจับกุม น.ส.อี่กองคำ ซึ่งอยู่ในห้องขณะตรวจค้น จากการสอบสวนนายอนุสรณ์ ให้การอ้างว่า รับยาเสพติดของกลางมาจาก ร.ต.อ. คนดังกล่าว จึงขออนุมัติเลขาธิการ ป.ป.ส. และ ประสาน บช.ปส.2 ขออนุมัติ จนสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

 

               ด้าน ร.ต.อ. ผู้ตกเป็นผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนให้การปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ยอมรับว่ารู้จักนายอนุสรณ์ มาประมาณ 1 ปี ซึ่งนายอนุสรณ์ เคยเป็นเจ้าของสถานบันเทิงซึ่งเปิดอยู่ในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ ซึ่งตนเองไปตรวจอยู่เป็นประจำ ส่วนเงินในบัญชีของตน จำนวน 1 แสนกว่าบาทที่ถูกอายัตไว้ตรวจสอบนั้น ตนได้มาจากการเล่นแชร์

 

               พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย มีพฤติการณ์ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ จึงทำการขยายผลทั้งเส้นทางการเงินและเส้นทางการสื่อสาร พบว่ามีความเชื่อมโยง รอง สวป.ดังกล่าวจริง จากนั้นได้ทำการรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลเพื่ออกหมายจับ 

 

               ทั้งนี้ รอง สวป.ดังกล่าวเป็นชุดจู่โจม ฝ่ายป้องกันปราบปรามของ สน. จากการสอบสวนพบว่า ร.ต.อ.นายดังกล่าวมีหน้าที่เป็นเอเย่นต์จัดหายาเพื่อให้คนไปส่งของทางไปรษณีย์อีกที ซึ่ง รอง สวป.ยังให้การปฏิเสธในตอนนี้ จึงยังไม่ถือว่าเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอที่จะดำเนินคดี และจะขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งการรับยาจากใคร และจะได้จับกุมขยายผลขบวนการดังกล่าวต่อไป

 

               ต่อมาเมื่อเวลา 20.40 น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจาก ผกก.สน. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.ดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ ร.ต.อ.ดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง รวมถึงให้รายงานตัวคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาด้วย

 

               ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในระดับ สวป., รอง ผกก.ป. และ ผกก. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ตามคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด