ข่าว

อาจไม่ได้ตัว "อดีตพระพรหมเมธี" กลับไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จ่อออกหมายจับอีก 2 เอี่ยวเงินทอนวัดสามพระยาวรวิหาร "อดีตพระพรหมเมธี" ขอลี้ภัยขึ้นกับทางการเยอรมนีพิจารณา เตรียมดำเนินคดีเศรษฐีนีพาหนี ชี้ โทษจำคุก 2 ปี

               ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีเงินทอนวัดว่า ขณะนี้ทางกองบังคับการปราบปราม ยังไม่ได้รับการประสานจากคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงที่เดินทางไปรับตัว อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน ว่าจะเดินทางกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยเมื่อใด

 

 

 

               ทั้งนี้ มีรายงานว่าการนำตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดีที่ไทยอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดเอาไว้ เนื่องจากจะต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร ส่วนกระแสข่าวที่ว่าอดีตพระพรหมเมธีมีการขอยื่นลี้ภัยทางการเมืองนั้น ตามขั้นตอนผู้ต้องหารายนี้ก็สามารถที่จะทำได้ อยู่ที่ทางการเยอรมนีจะรับพิจารณาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจไทยมีความพยายามที่จะนำตัวกลับมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดตามขั้นตอน
               รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของสำนวนการสอบสวนคดีเงินทอนวัดนั้นอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบเอกสารที่ยึดมาได้จากการตรวจค้นวัดต่างๆ และพนักงานสอบสวนยังได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ ปปง. ให้อายัดบัญชีธนาคารทุกบัญชีที่เป็นบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งที่เป็นพระและเป็นฆารวาสเป็นเวลา 90 วัน แต่ไม่ได้อายัดบัญชีของวัด เพื่อตรวจสอบเส้นทางทางการเงินอย่างละเอียด
               นอกจากนี้มีรายงานว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดสามพระยาวรวิหาร พนักงานสอบสวนเตรียมที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาอีกอย่างน้อย 2 คน ที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวัด หลังพบว่า สองสามีภรรยาเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์แห่งหนึ่ง มีเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับวัดสามพระยา และไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากถึง 3 ล้านบาท

 

 

 

               ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีหลบหนีอกนอกประเทศนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวไทย 2 คน และชาวลาว 2 คน ฐานกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 189 ที่ระบุว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้ต้องโทษหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีรายงานว่าผู้ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้น ประกอบด้วย นางจันทนา และลูกชาย ชาวลาว 2 คน ส่วนคนไทย 2 คน ประกอบด้วย สีกาจุ๋ม เจ้าแม่ตลาดหุ้น และนายโค๊ด หลานชายของอดีตพระพรหมเมธีที่เป็นผู้ติดตามไปประเทศเยอรมนี แต่ปัจจุบันยังไม่ออกหมายจับ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ