"จัดซื้อ"ผ้าห่มเมืองสิงห์ฯส่อโกงหลายตลบ !

 

          22 พ.ค. 2561 ป.ป.ท.สอบผ้าห่มสิงห์บุรี พบราคาสูงเกินจริง อ้างชาวบ้านหนาวจัด ต้องสั่งซื้อวิธีพิเศษ หลังถูกกดดันหนักพลิกลิ้น ราคาแค่ 200 บาท แต่ซื้อเพิ่ม 1,000 ผืนไม่ปักใจเชื่อ คาดทำเอกสารกลบเกลื่อนความผิด  

 

         จ.สิงห์บุรี พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ลงพื้นที่ อ.เมืองสิงห์บุรี และอ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจ.สิงห์บุรีจัดซื้อผ้าห่ม ราคาแพง ไม่ได้มาตรฐานแจกจ่ายให้ประชาชน 500 ผืน ว่า จากการตรวจสอบฎีกาการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย 76 จังหวัด พบมีความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงิน 67 จังหวัด

 

 

          ส่วนอีก 9 จังหวัดรวมถึงจ.สิงห์บุรี ซึ่งพบความผิดปกติในการจัดซื้อผ้าห่มแจกจ่ายให้ผู้มีรายได้น้อย จึงเดินทางมาตรวจสอบและรับฟังข้อเท็จจริงในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นการจัดซื้อผ้าห่มของศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯ จะใช้วิธีพิเศษ โดยอ้างว่ามีภัยหนาวเร่งด่วน จึงเลือกร้านค้าเองและตกลงราคาจัดซื้อผ้าห่ม 500 ชุดในราคาผืนละ 400 บาทจากผู้ประกอบการ รวมเป็นเงิน 200,099 บาท โดยผ้าห่มที่แจกมีลักษณะเนื้อผ้าบาง เส้นใยไม่มีความคงทน และมีช่วงราคาที่เหมาะสมที่ท้องตลาดขายอยู่ที่ 120-170 บาท และเมื่อนำมาชั่งน้ำหนักพบว่ามีน้ำหนักไม่ถึง 1,100 กรัม ต่ำกว่ามาตรฐานที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กำหนดไว้

 

          พ.ต.ท.วันนพ กล่าวอีกว่า ขณะที่ชาวบ้านหลายรายยืนยันว่าไม่ได้ขอให้แจกผ้าห่ม และช่วงที่นำมาแจกก็ไม่ได้มีอากาศหนาวแต่สภาพอากาศร้อนอบอ้าว จากข้อมูลดังกล่าว ป.ป.ท.จะตรวจสอบคุณภาพผ้าห่มว่าเหมาะสมกับราคาหรือไม่ และการแจกผ้าห่มให้ชาวบ้านครบทุกคนหรือไม่

 

          สำหรับการจัดซื้อยังมีข้อสังเกตในช่วงเวลาที่ขอรับการช่วยเหลือ ได้กระทำอย่างเร่งด่วนจึงต้องตรวจสอบว่าจังหวัดได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติหนาวหรือไม่ ในเดือนก.พ.-มี.ค.60 เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวหรือไม่ และการอนุมัติจัดซื้ออาจไม่ได้เกิดจากความต้องการของผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง รวมทั้งมีการส่งมอบผ้าห่มให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันที่มีการตรวจรับพัสดุ ซึ่งป.ป.ท.จะดำเนินการขยายผลการตรวจสอบการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 จนถึงปัจจุบัน

 

          พ.ต.ท.วันนพ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดซื้อผ้าห่มแล้วออกมายืนยันผลการตรวจมีการจัดซื้อถูกต้องนั้น คาดว่าเป็นการตรวจสอบคนละรูปแบบ โดยป.ป.ท.ตรวจสอบตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ อย่างไรก็ตาม เมื่อป.ป.ท.เข้าสอบปากคำเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคู่สัญญาขายผ้าห่มให้กับศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯ ก็ได้เปลี่ยนคำให้การ จากเดิมที่เคยให้การว่าขายผ้าห่มราคา 400 บาท จำนวน 500 ผืน

 

          แต่ในความเป็นจริงขายผ้าห่มในราคา 200 บาท จำนวน 1,000 ผืน เพื่อให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯนำไปแจก 2 ครั้ง แต่เมื่อป.ป.ท.ลงพื้นที่ตรวจสอบต.บ้านแป้ง พบว่าผู้มีรายชื่อรับผ้าผ่ม 5-6 หลังคาเรือน ลงชื่อเป็นผู้ได้รับผ้าห่ม 2 ครั้ง แต่ข้อเท็จจริงได้ผ้าห่มแค่ครั้งเดียว เบื้องต้นถือเป็นประเด็นที่ส่อพิรุธสันนิฐานว่าเป็นการสร้างข้อเท็จจริงใหม่ขึ้นมากลบเกลื่อนความผิด โดยในสัปดาห์หน้าจะนำสำนวนเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวน

 

          แหล่งข่าวจาก ป.ป.ท. เปิดเผยว่า การตรวจสอบกรณีจัดซื้อผ้าห่มที่จ.สิงห์บุรีของป.ป.ท. เป็นการตรวจสอบฎีกาเบิกจ่ายเพียงแค่ฎีกาเดียว ในการสอบปากเจ้าของร้านที่ขายผ้าห่มให้ศูนย์ฯสิงห์บุรี มีอาชีพขายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งยอมรับว่าก่อนให้ข้อมูลกับป.ป.ท.ได้โทรศัพท์ไปสอบถามผอ.ศูนย์ฯ สิงห์บุรี เพื่อกำหนดแนวทางการให้ข้อมูล     

 

          โดยผอ.ศูนย์ฯ สิงห์บุรี ยืนยันให้แจ้งข้อมูลขายผ้าห่มในราคา 400 บาท จำนวน 500 ผืน พร้อมให้ตั้งตัวอย่างผ้าห่มไว้ที่หน้าร้าน แต่เมื่อถูกกดดันด้วยการถามซ้ำไปมาหลายครั้ง เจ้าของร้านจึงเปลี่ยนคำให้การว่าเป็นการจัดซื้อจำนวน 1,000 ผืน วงเงินผืนละ 200 บาท ซึ่งอยู่ในงบประมาณจัดซื้อเดิม 200,000 บาท และตรงกับบัญชีรายชื่อผู้รับผ้าห่ม 1,000 คน ของศูนย์ฯสิงห์บุรี อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบชาวบ้านผู้มีรายชื่อรับผ้าห่มพบว่า นอกจากจะถูกปลอมลายเซ็นรับผ้าห่มแล้ว ยังเป็นการนำผ้าห่มที่จัดซื้อในการงบประมาณ 2560 มาแจกในปีงบประมาณ 61

 

           “จากข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ผู้ตรวจกระทรวงฯ ทำบันทึกถึงรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า ขอยกเลิกรายงานผลการตรวจสอบที่ยืนยันไม่พบการทุจริตในจ.สิงห์บุรี เนื่องจากได้รับข้อมูลอันเป็นเท็จ”แหล่งข่าวจากป.ป.ท.ระบุ

           ขณะที่ นางลออ ฉิมวัย อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า ตนได้รับแจกผ้าห่มเมื่อเดือนมี.ค.2560 โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ร้องขอ แต่ผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าจัมีผ้าห่มมาแจกให้ผู้ยากไร้ จึงสำรวจรายชื่อและนำผ้าห่มมามอบให้ ก่อนหน้านี้ชาวบ้านไม่ทราบว่ามีการทุจริตจัดซื้อผ้าห่ม เพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ที่ลงมาตรวจสอบ สำหรับผ้าห่มที่ได้รับแจกพบว่า เป็นผ้าใยสังเคราะห์ผืนบางๆ ไม่สมกับราคา 400 บาท และไม่ต่างจากผ้าห่มที่เคยได้รับแจกเป็นของชำร่วยตามงานศพทั่วไป ซึ่งมีราคาเพียง 180 บาทเท่านั้น 

 

           นางลออ กล่าวอีกว่า สำหรับผ้าห่มที่ได้รับแจกไม่ได้ใช้ เพราะได้รับแจกหลังผ่านฤดูหนาวมาหลายเดือน จะใช้ห่มหน้าร้อนก็ไม่ได้ เพราะเป็นใยสังเคราะห์ห่มแล้วร้อนมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ได้รับแจกไม่ทราบมาก่อนว่ามีการโกงงบผ้าห่มพอมาทราบอีกทีเขาก็โกงกันไปเรียบร้อยแล้ว เขาเห็นคนจนไม่มีค่า ไม่มีราคา จะแจกของไม่มีคุณภาพอย่างไรก็ได้ เพราะแจกมาคนจนก็รับแล้วไม่รู้หรอกว่า เขาโกง หรือทุจริต รู้สึกเซ็งและแย่กับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนเขาดูถูกเรา และใช้คนจนเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ไม่ซื่อสัตย์ ถ้าอยากช่วยเหลือคนจนจริงๆควรซื้อข้าวสาร น้ำมันพืชมาแจกจะเป็นประโยชน์มากกว่ส

 

          ขณะที่นายแสวง ม่วงกล่ำ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า ในพื้นที่หมู่ 5 มีชาวบ้านได้รับแจกผ้าห่มเพียง 5-6 หลังคาเรือน ซึ่งอบต.บ้านแป้งได้สำรวจรายชื่อชาวบ้านที่ได้รับแจกผ้าห่มของปีงบประมาณ 2560 โดยตนมีชื่อได้รับแจกผ้าห่ม 2 ครั้ง แต่ได้รับผ้าห่มใยสังเคราะห์ผืนเดียวเมื่อเดือนธ.ค.2560 ตามบัญชีรายชื่อผู้ได้รับแจกที่ทางพม.ได้ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม ตนมาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ลงมาตรวจสอบว่ามีการทำบัญชีแจกผ้าห่ม 2ครั้ง คือ แจกในเดือนมี.ค 2560 และแจกอีกครั้งในเดือน ธ.ค 2560 และพบว่า ตนถูกปลอมลายเซ็นรับผ้าห่มถึง 2 ครั้งเช่นกัน

 

 

            "เสียความรู้สึก ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำอย่างนี้ และยังมีการปลอมแปลงลายมือชื่อของผมไปรับผ้าห่มถึง 2 ครั้ง ทั้งๆที่ได้รับมาเพียงผืนเดียว"นายแสวง กล่าว