ข่าว

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.ออกหมายเรียก 'พ่อสันธนะ' พบ 18 พ.ค.นี้ ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหา รวบ 1 รายทีมรีดไถตลาดใหม่ดอนเมือง ด้าน รองผบ.ตร.ยัน 8 ผู้ค้าตัวจริง

          จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง หรือ ตลาดแอร์พอร์ต และยึดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นจำนวนมาก ทั้งเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า สิ่งก่อสร้างไม่ถูกต้อง มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้สั่งให้รื้อถอน ล่าสุด มีการรื้อถอนพลาซ่าริมน้ำแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ค้าในบริเวณดังกล่าว ถูกเรียกเก็บเงินนอกเหนือจากค่าเช่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ก่อนได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 10 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี และสามารถจับกุมมาได้ 1 คน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สน.โชคชัย ออกหมายเรียก พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย ประยูรรัตน์ บิดาของ พ.ต.ท.สันธนะ ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหา

          เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ออกหมายเรียก พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย ประยูรรัตน์ อายุ 91 ปี บิดาของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ สน.โชคชัย ในกรณีให้ที่พักพิงผู้ต้องหา คือ พ.ต.ท.สันธนะ ทั้งนี้ เนื่องจากคืนวันที่ 11 พฤษภาคม หลังจากถูกออกหมายจับในคดีกรรโชกทรัพย์ พ.ต.ท.สันธนะได้เข้าไปพักที่บ้านของบิดา เลขที่ 219 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
แฟ้มภาพ
 

          ทั้งนี้ ในหมายเรียกระบุว่า พฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเรียกเก็บเงินผู้ค้าที่ตลาดใหม่ดอนเมือง ร่วมกันเปิดเผยถึงการจับกุมนายคเณศ หรือ ต้น เปรมครุฑ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กรณีเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าเข้าร้องทุกข์ต่อคณะทำงานคดีดังกล่าว โดยจับกุมได้ที่ริมถนนทางเข้าวัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
 

          สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวว่า ถูก พ.ต.ท.สันธนะ และพวก ขู่กรรโชกทรัพย์โดยการเรียกรับผลประโยชน์และเก็บค่าคุ้มครอง นอกเหนือจากค่าเช่าที่ที่จะต้องจ่ายให้แก่ตลาด เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนมีการออกหมายจับ กระทั่งต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับลำดับที่ 8 ในเครือข่ายของพ.ต.ท.สันธนะ ได้กบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนจะเร่งนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สน.ดอนเมือง

          จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่านายคเณศมีความเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.สันธนะ เนื่องจากทำงานเป็นผู้จัดการตลาดใหม่ดอนเมือง รวมถึงเป็นหุ้นส่วนอยู่ในตลาดดังกล่าวและยังเป็นผู้ขออนุญาตเปิดทำการตลาดโซนพลาซ่าริมน้ำ จึงถือเป็นหนึ่งในผู้ร่วมกระทำความผิดร่วมกับ พ.ต.ท.สันธนะ ด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
 

          ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอีก 9 คน จากที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 11 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่ายังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากการหลบหนีออกนอกประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ที่หลบหนีต้องมีเป้าหมาย เช่น ไปหลบอยู่กับใคร พักอยู่ที่ใด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องที่อาจถูกทางการประเทศนั้นๆ ติดตามจับกุมดำเนินคดี ฐานหลบหนีเข้าเมืองอีกด้วย

 

          จากกรณีระหว่างตำรวจ สน.ดอนเมือง ควบคุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สันธนะได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า จะแจ้งความกลับผู้ค้าทั้ง 8 ราย ที่แจ้งความเอาผิดตัวเอง ซึ่งมีรายชื่อของทุกคนแล้ว ต่อมาภายหลังได้รับการประกันตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จะกลับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องผู้ค้าที่แจ้งความก่อนนั้น

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์ แฟ้มภาพ
 

          เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ในคดีผู้มีอิทธิพลเรียกรับเงินผู้ค้าในตลาดดอนเมือง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.สันธนะให้สัมภาษณ์เช่นนั้น เป็นหนึ่งในเทคนิคการต่อสู้คดี ที่จะมีผลสำหรับการเบิกความในชั้นศาลต่อไป จึงยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่ผู้เสียหายหรือไม่ ส่วนเรื่องการดำเนินคดี พ.ต.ท.สันธนะ และพวก ยืนยันว่าเป็นการทำไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอน่าเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง ส่วนจะเป็นความผิดชัดเจนหรือไม่ต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

          “พ.ต.ท.สันธนะจะฟ้องร้องกลับก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิตามกระบวนการของกฎหมาย ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ค้าในตลาดหรือพยานหลักฐานได้ เพราะเมื่อวานนี้(13 พ.ค.) ศาลได้ให้ประกันตัวพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งหากพบว่าเข้าไปข่มขู่หรือยุ่งเหยิงหลักฐาน ศาลอาจพิจารณาถอนการประกันตัวได้ ส่วนที่ พ.ต.ท.สันธนะตั้งข้อสงสัยว่าผู้ค้าทั้ง 8 คนนี้ ไม่ใช่ผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง เนื่องจากไม่รู้จักนั้น ขอยืนยันว่าทั้ง 8 คนนี้เป็นผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองจริง ไม่มีการนำคนนอกมาสอบปากคำแต่อย่างใด” พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าว

          พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความสมบูรณ์ของพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่ายังไม่สามารถเรียกให้ พ.ต.ท.สันธนะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มได้ในเร็ววันนี้ รวมถึงประเด็นความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องรอการสอบสวนขยายผลก่อน ทั้งนี้สำหรับผู้เสียหายที่แจ้งความเอาผิด ตำรวจมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว และหากใครที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ก็สามารถแจ้งให้ตำรวจเข้าไปช่วยดูแลเพิ่มเติมได้

          พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะอ้างว่าถูก 3 นายพลกลั่นแกล้งนั้น พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริงตามที่ผู้เสียหายหรือประชาชนมาร้องเรียน ยืนยันไม่ได้ทำตามใบสั่งใครเพราะคดีอาญาไม่มีใครที่สามารถสั่งการได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสินของศาลเท่านั้น

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์ แฟ้มภาพ
 

          ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนคดีการจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ หลังจากศาลอนุญาตให้ประกันตัวว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่า พ.ต.ท.สันธนะมีพฤติกรรมข่มขู่พยานคือ กลุ่มผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง จำนวน 8 ราย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่า พ.ต.ท.สันธนะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือแทรกแซงพยานหลักฐานมากน้อยเพียงใด แต่ยังไม่มีการยื่นศาลขอถอนประกันตัว ส่วนกลุ่มผู้ค้าก็อยู่ระหว่างการคุ้มครองพยาน

          ขณะที่ นายอภิชาติ ครัวเชื้อ ทนายความของ พ.ต.ท.สันธนะกล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวว่าจะมีการเเจ้งข้อหาเพิ่ม พ.ต.ท.สันธนะ ว่าขณะนี้ยังไม่มีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเรียก พ.ต.ท.สันธนะ ไปเเจ้งข้อหาเพิ่มเติมเเต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.สันธนะจะมีการฟ้องข้าราชการระดับนายพล 3-5 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการสั่งการบอกกล่าวมายังทีมทนายความเเต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันก่อน เพราะต้องพิจารณาดูด้วยว่ามีความจำเป็นถึงขั้นนั้นหรือไม่ เเต่หากทางเจ้าหน้าที่ยังพยายามที่จะยัดเยียดข้อหามาอีกเราก็จำเป็นต้องฟ้อง เพราะที่ผ่านมาเหมือนกับว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่เกินจากกฎหมายไป ส่วนจะดำเนินการฟ้องใครบ้างนั้น เรายังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน เรื่องที่จะฟ้องกลับ 3-5 นายพล ขณะนี้ยังเป็นเเนวคิดที่ยังไม่ได้ตกผลึก

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์ แฟ้มภาพ

 

          เมื่อถามถึงเเนวทางการต่อสู้คดีกรรโชกทรัพย์ 8 คดี นายอภิชาติกล่าวว่า ขณะนี้เพิ่งเข้าสู่กระบวนการฝากขังครั้งเเรก พนักงานสอบสวนยังมีระยะเวลารวบรวมพยานหลักฐานอีก 4 ฝาก หรือ 48 วันในการยื่นฟ้อง เรื่องเเนวทางการต่อสู้เราต้องดูรายละเอียดคำฟ้องว่ามีรายละเอียดฟ้องอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นตามที่ฟ้องมาหรือไม่ ก่อนที่เราจะหาประเด็นที่มาหักล้างคำฟ้อง

          “ส่วนเรื่องร้องขอความเป็นธรรมนั้นในชั้นพนักงานสอบสวนเราคงไม่ยื่นร้องขอความเป็นธรรมไป เพราะยื่นคำร้องไปก็คงไม่ได้อะไร อย่างที่เรารู้กัน เเต่หากมีการส่งความเห็นพร้อมสำนวนไปยังอัยการเเล้วเราก็จะดูว่าพนักงานสอบสวนมีความเห็นอย่างไร หากเราเห็นว่าไม่ถูกต้อง เราก็จะร้องขอความเป็นธรรมไปยังพนักงานอัยการให้สั่งพนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นของผู้ต้องหาก่อนที่จะมีการสั่งคดี เเต่เราก็จะต้องดูรายละเอียดก่อน ขณะนี้เรามีเพียงเเค่เอกสารคำร้องฝากขังอยู่ในมือ” ทนายความของ พ.ต.ท.สันธนะกล่าว

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์ แฟ้มภาพ
 

          ทั้งนี้ พ.ต.ท.สันธนะเตรียมจะแถลงข่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะตอบทุกข้อสงสัย ทุกซอกทุกมุมของชีวิต ที่โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ ราชดำริ ในเวลา 14.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม นี้

 

          จากกรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ร่วมกับ กรมธนารักษ์และสำนักงานเขตดอนเมือง ตรวจสอบอาคารพลาซ่าริมน้ำ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง พบว่าตั้งรุกล้ำที่สาธารณะคลองเปรมประชากร เนื้อที่ขนาดกว้าง 45 ตารางเมตร ลึก 20 ตารางเมตร และต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต นำพื้นที่นั้นจัดสรรให้ประชาชนเช่า นอกจากนี้พบว่า ภายในตลาดนั้น มีการขยายเวลาก่อสร้างล่าช้ามาแล้ว 10 ปี โดยไม่มีเหตุอันควร มีการเก็บค่าเช่าปีละประมาณ 3.3 ล้านบาท คิดเป็นราคาความเสียหาย 10 ปี ราคาอยู่ที่ 33 ล้านบาท สร้างความเสียหายให้แก่ผู้เช่าและกรมธนารักษ์อย่างมาก จึงมีคำสั่งให้รื้ออาคารดังกล่าวภายใน 15 วันนั้น

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
 

          เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งให้รื้ออาคารพลาซ่าริมน้ำ ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่มีร้านค้าอยู่ภายในอาคาร ได้ขนย้ายสิ่งของออกมาทั้งหมดแล้วและได้รื้ออาคารบางส่วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยด้านนอกรอบอาคาร มีเชือกล้อมไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเนื่องจากอยู่ในระหว่างรื้อถอน

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
 

          ผู้ประกอบการซึ่งเช่าอาคารพลาซ่าริมน้ำรายหนึ่งกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้ว อาคารนี้ไม่ค่อยมีการขายของ แต่จะเช่าไว้สำหรับเก็บสินค้าที่ขายเท่านั้น เนื่องจากมีหน้าร้านอยู่ด้านหน้าตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งหลังจากมีคำสั่งให้รื้อถอน ผู้ประกอบการก็ทยอยย้ายของออกจากพื้นที่เช่าของตนเอง และนำของไปเก็บที่ร้าน

          สำหรับการร้องเรียนให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อบีเคิร์ฟว (Be curve) ซึ่ง “เบลล่า” น.ส.ราณี แคมเปน นักแสดงสาวชื่อดัง ร่วมเป็นหุ้นส่วน พบว่ามีการใช้ข้อความในการโฆษณาว่า “ชง ผอม” โดยตัวแทนจำหน่ายบางรายนำภาพของเบลล่าจากอินสตาแกรมไปทำภาพประกอบ และมีถ้อยคำบรรยายสรรพคุณสินค้า จนมีภาพเผยแพร่ออกสื่อในวงกว้าง เข้าข่ายผิดกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา ซึ่งต่อมา น.ส.วิรากานต์ เสณีตันติกุล หรือ มะปราง อายุ 29 ปี นักแสดงช่อง 3 ในฐานะเจ้าของ บริษัท 99 นิว วัน จำกัด และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบีเคิร์ฟว ได้นำเอกสารที่มีการจดทะเบียนบริษัทและได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มามอบให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) รวมถึงชี้แจงในประเด็นที่เป็นกระแสข่าวเรื่องการโฆษณาสินค้าเกินจริง

ตร.ออกหมายเรียกพ่อสันธนะฐานให้ที่พักพิง-จับ1ทีมกรรโชกทรัพย์
 

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับการประสานตอบกลับจาก น.ส.ราณี แคมเปน หรือ เบลล่า เพื่อเข้าพบตามกำหนดในวันที่ 15-16 พฤษภาคม แต่อย่างใด ทั้งนี้ หากภายในสัปดาห์นี้ฝ่ายนักแสดงสาวยังไม่ติดต่อหรือเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกทันที เนื่องจาก น.ส.ราณีมีรูปปรากฏอยู่ในโฆษณาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องเข้ามาชี้แจงต่อ ตำรวจ ปคบ.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ